‘เศรษฐา’ หนาว ‘เรืองไกร’ ยื่น ป.ป.ช. ฟันดาบ2 ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรง
“เรืองไกร” ยื่น ป.ป.ช. ฟันดาบ2 “เศรษฐา” หลัง ศาลรธน. วินิจฉัย หลุด นายกฯ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ชี้ หากศาลฎีกา ตัดสินตาม จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตลอดชีวิต
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะตัว เพราะเหตุตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) นั้น ผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้มีประเด็นที่ต้องร้องไปที่ ป.ป.ช. ตามมาด้วย ดังนั้น ในเช้าวันนี้ ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามคำร้องต่อไป
นายเรืองไกร ระบุว่า ขอให้ ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยว่า โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นเหตุให้นายเศรษฐา เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่
โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพัน ป.ป.ช. ด้วย กรณีจึงมีความจำเป็นต้องขอให้ ป.ป.ช. คัดสำเนาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญพร้อมทั้งเอกสารมาถือเป็นสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. เพื่อเสนอเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 (1) จึงเรียนมาเพื่อขอให้ ป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยว่า โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นเหตุให้นายเศรษฐา เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีที่ต้องร้องนายเศรษฐา ไปที่ ป.ป.ช. เพราะหากต่อมาศาลฎีกาวินิจฉัยตามศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดไปด้วย และตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้มีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม ที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป
นายเรืองไกร กล่าวว่า แม้คณะรัฐมนตรี ครม. จะพ้นทั้งคณะ แต่ในวันนี้เวลาประมาณ 13.00 น. ตนก็ยังต้องไปให้ถ้อยคำที่ กกต. เนื่องจากเป็นกรณีที่ร้องว่ารัฐมนตรีสองรายถือหุ้นเกินร้อยละห้า หรือไม่ ซึ่งหากถูกวินิจฉัยตามที่กล่าวหา จะต้องเว้นวรรคสองปีตามมาตรา 160 (8) กรณีดังกล่าว จึงไม่ตกไป