'พิจารณ์' ชี้ยื่นยุบ พท.ตอกย้ำ รธน.มีปัญหา มองเป็นเอกสิทธิ์ ปชป.ร่วมรัฐบาล
'พิจารณ์' ชี้ยื่นยุบ 'เพื่อไทย' ตอกย้ำ รธน.มีปัญหา ต้องแก้ไข มองเป็นเอกสิทธิ์ ปชป.เข้าร่วมรัฐบาล ยันพรรคประชาชน พร้อมร่วมทุกพรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้าน มั่นใจชนะเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน (ปชช.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จ่อเข้าร่วมรัฐบาล ว่า เป็นเอกสิทธิ์ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สิ่งที่ทำให้เห็นคือความไม่มีเสถียรภาพของพรรครัฐบาล ที่เอาแต่เล่นการเมือง ไม่ได้มุ่งสมาธิไปที่การแก้ไขปัญหาของประเทศที่มีปัญหาหลายอย่าง
“เล่นการเมืองกันชิงไหวชิงพริบ ทำให้ความเป็นเอกภาพมันไม่มี จึงต้องเพิ่มเสียงพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมการเมือง” นายพิจารณ์ กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวว่า กรณีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จะมาเป็นพรรคฝ่ายค้านนั้น ตนไม่ทราบว่าจะมาร่วมงานอย่างไร และอาจไม่ใช่ สส.พรรคพลังประชารัฐทั้งพรรค อาจเป็นเพียง กลุ่มของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ แต่พรรคประชาชนก็พร้อมทำงานกับทุกพรรคทุกสถานการณ์ทางการเมือง โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนการเล่นการเมืองเอาไว้ทีหลัง
ส่วนศึกสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จ.ราชบุรี ในวันที่ 1 ก.ย. และ เลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก ในวันที่15 ก.ย. นั้น นายพิจารณ์ กล่าวว่า ถือเป็นสนามที่วัดกระแสนิยมระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งซ่อม สส. ครั้งแรกของพรรคประชาชน ถือเป็นบันไดขั้นแรกที่พรรคประชาชนจะต้องยึดพื้นที่ทางการเมืองให้ได้ มั่นใจว่าในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้ หากอ้างอิงจากการเลือกตั้งปี 2562 กับปี 2566 ที่ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงสูงสุด
“การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคก้าวไกล ท่านไม่เห็นด้วยกับการที่ สส.ปดิพัทธ์ สันติภาดา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และเป็นการยืนยันว่าท่านต้องการเห็นการเมืองแบบพรรคก้าวไกลนำมาสู่พรรคประชาชน ยืนหยัดอยู่ในสนามการเมืองไทย ถ้าต้องการเห็นพรรคฝ่ายค้านเพิ่มที่นั่ง 1 ที่นั่ง เพื่อมีพลังที่เข้มข้นในการตรวจสอบรัฐบาลที่มากขึ้น” นายพิจารณ์ กล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เหตุนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครอบงำพรรค ว่า เป็นการตอกย้ำการสะท้อนให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหา รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่มีปัญหาซึ่งถูกใช้โดยองค์กรอิสระ นำไปเป็นเครื่องมือนิติสงคราม โดยเห็นว่า สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังหารือกันอยู่ในเรื่องนี้ เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่นักการเมืองทุกส่วนจะหารือร่วมกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กติกาเป็นธรรมมากขึ้นและเพื่อให้เกิดเกมทางการเมืองนิติสงครามในอนาคต เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้มีสมาธิมุ่งทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน