'เพื่อไทย' ปรับสูตรดูดเฉพาะ สส. พปชร.-ปชป. ร่วมรัฐบาล

'เพื่อไทย' ปรับสูตรดูดเฉพาะ สส. พปชร.-ปชป. ร่วมรัฐบาล

ปรับสูตร 'ดูดสส.' ร่วมรัฐบาล 'เพื่อไทย' เดินเกม ดึงเฉพาะ “สส.” พปชร.-ปชป. ร่วมรัฐบาล ใช้มติพรรคเขี่ย พปชร. แจกโควตาเก้าอี้ สส.

KEY

POINTS

  • ปิดฉาก "วงษ์สุวรรณ" ปิดเกมเขี่ย "พลังประชารัฐ" ครม.แพทองธาร 1 ใกล้จบ "เพื่อไทย" ปรับสูตรดึงเฉพาะ สส. จาก "พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์" เข้าร่วมรัฐบาล
  • ตำแหน่ง "รัฐมนตรี" ของ สส. พรรคร่วมรัฐบาล ค่อนข้างจะลงตัวแล้ว เช่นเดียวกันการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ใกล้เสร็จแล้ว จึงคาดการณ์ว่าก่อนสิ้นเดือน ส.ค. จะได้เห็นหน้าตา ครม.แพทองธาร 1

แค่นับหนึ่งก็ลำบากแล้ว สำหรับ ครม.แพทองธาร 1 แม้ “นายกฯอิ๊งค์” จะออกมาคอนเฟิร์มเลือก 35 รัฐมนตรีด้วยตัวเอง แต่อำนาจเชิงซ้อนใน “ตระกูลชินวัตร-พรรคเพื่อไทย” ย่อมรู้กันดีว่า ไผเป็นไผ ใครเด็กใคร ใครโควตาใคร

บรรยากาศภายใน “เพื่อไทย” เอง แม้จะดูเหมือนคลื่นลมจะสงบ แต่มีศึกย่อมๆ เกิดขึ้น จากการชิงเก้าอี้รัฐมนตรี โดยเก้าอี้เสนาบดีโควตา “เพื่อไทย” มี 17 ที่นั่ง แต่มีการเรียกให้แคนดิเดตไปกรอกประวัติเกินโควตา

เนื่องจาก “ทีมกุนซือ” ข้างกายของ “แพทองธาร” ต้องการเพลย์เซฟ หากมีแคนดิเดตคนไหนตกรอบตรวจคุณสมบัติ จะได้ส่งแคนดิเดตที่มีคุณสมบัติรัฐมนตรีครบถ้วน เสียบแทนทันที ไม่ต้องมาเสียเวลาเฟ้นหากันอีกรอบ

มีกระแสข่าวว่า “บิ๊กการเมือง” ซึ่งมีชื่ออยู่ในแคนดิเดตหลายคน ใช้กำลังภายในเข้าหา “บ้านชินวัตร” บางคนวิ่งสายแม่ บางคนวิ่งสายพ่อ ทำให้โผ ครม. “เพื่อไทย” ไม่นิ่งเสียทีเดียว

อย่างชื่อ “รมว.กลาโหม” ยังสวิงอยู่ระหว่าง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.พาณิชย์ กับ “พ่อเสริม” เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจาก “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม โควตาหมดอายุไปแล้ว แม้จะมีข่าวปล่อยว่าอาจจะได้ไปต่อ แต่โอกาสมีน้อยมาก

ส่วนชื่อของ “เสริมศักดิ์” ช่วงหลังมีกระแสข่าวว่าอาจจะหลุด ครม.แพทองธาร 1 ด้วยซ้ำ แต่มีกำลังเสริมชั้นดีจากหลังบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” มาการันตีงานดีมีคุณภาพ

ขณะเดียวกัน ต้องจับตา “ทีมแพทองธาร” ที่จะพาเหรดเข้ามานั่งในครม. อาทิ “เลขาฯบอย” สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำงานเบื้องหลังให้พรรคมาสักระยะ จึงเป็นที่ชื่นชอบของหัวหน้าอิ๊งค์

มีกระแสข่าวว่า “สรวงศ์” อาจจะมานั่งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แทน “เสริมศักดิ์” โดยจะช่วยส่งเสริมงานซอฟต์พาวเวอร์ให้กับนายกฯ

ส่วนเก้าอี้อื่นในโควตา “เพื่อไทย” ค่อนข้างนิ่งพอสมควร “รัฐมนตรี” ส่วนใหญ่ได้อยู่ในตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม ซึ่งถือเป็นกระทรวงหลัก กระทรวงความหวังของ “ขุนพลเพื่อไทย”

สำหรับพรรคภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่งรายชื่อ 8 รัฐมนตรีในโควตาเดิมทั้งหมด โดยลุ้นแค่ชื่อ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย จะผ่านด่านคุณสมบัติหรือไม่ หากผ่านไปได้ก็จะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร

เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยึดโควตารัฐมนตรีเดิมเอาไว้ โดยจะขอโยก “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” จาก รมว.อุตสาหกรรม ไปดำรงตำแหน่ง รมช.คลัง เปิดทางให้ “เลขาฯขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปนั่ง รมว.อุตสาหกรรม แทน

ส่วนที่ยังวุ่นวายหนัก คือพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีโนติสจาก “ศูนย์รวมอำนาจเพื่อไทย” ให้เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล 

ทว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค พาวเวอร์ยังไม่แรงพอจะดูด สส.ออกจากบ้านป่าฯ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มาได้ทั้งหมด

หากนับ 40 สส.พลังประชารัฐ ไม่รวมพวกรับสองทาง ขุมกำลังของ “สายตรงประวิตร” กับ “สายตรงธรรมนัส” ยังเท่ากันอยู่ที่ 20 ต่อ 20

ก่อนหน้านี้ ที่สายบ้านป่าฯ มีการวางเกม-วางค่ายกล เอาไว้ ด้วยการออกแถลงการณ์พรรคพลังประชารัฐ ส่งโผ 4 รัฐมนตรีชุดเดิม โดยให้ถือเป็นมติพรรค ที่ไม่อาจดำเนินการหักดิบได้ ยิ่งทำให้ “ทีมกุนซือนายกฯอิ๊งค์” ต้องระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง หากจะแต่งตั้ง“คนนอก”พรรค นอกมติพรรคมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

เนื่องจากพิษสงของ “ลุงป้อม” ยังคงมีเครื่องมือและกลไกทางกฎหมายเป็นไม้เด็ด พร้อม้สอยนายกฯ “แพทองธาร” ตกเก้าอี้ เหมือนที่เคยบัญชาการลับให้ “กลุ่ม 40 อดีตสว.” ยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ฟัน “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกฯมาแล้ว

ฝั่ง “เพื่อไทย” จึงต้องแก้เกมลุงบ้านป่าฯ โดยใช้มติ “สส.เพื่อไทย” โหวตไม่เอา “พลังประชารัฐ” เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อใช้เป็นข้อต่อสู้ หากมี “มือมืด” หาเรื่องร้องเรียน

ว่ากันว่า ก่อนหน้านี้ “ทีมกุนซือแพทองธาร” วางหมากให้ “ธรรมนัส” เสนอชื่อ “คนนอกพรรคพลังประชารัฐ” มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี จึงทำให้ชื่อของ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” หัวหน้าพรรคกล้าธรรม มาแรงในตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ “อัครา พรหมเผ่า” น้องชาย “ธรรมนัส” จ่อ รมช.เกษตรและสหกรณ์

หากเลือกแผนนี้ จะทำให้ “รมต.เบนซ์” อรรถกร ศิริลัทธยากร” รมช.เกษตรและสหกรณ์ พ้นจากตำแหน่งทันที แม้จะกรอกประวัติไปแล้ว เพราะเมื่อเกมเปลี่ยน ชื่อคนก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะสิ้นสุดความเป็นพรรคอะไหล่ หลังมีการทาบทามจาก “แกนนำรัฐบาล” ให้เกณฑ์ 21 สส. (จาก 25 สส.) ให้เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อมาเติมเสียง 20 สส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ขาดหายไป

แม้ดีลระหว่าง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค “นายก ชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค กับ “บิ๊กจันทร์ส่องหล้า” จะราบรื่นไปด้วยดี โดยมีโอกาสสูงที่ “เฉลิมชัย” จะนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วน “เดชอิศม์” จะนั่ง รมช.สาธารณสุข หรือ รมช.มหาดไทย

ทว่าปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ ยากที่จะเคลียร์กันจบ เนื่องจาก 4 สส.เลือดสีฟ้าเข้มข้น ไม่ขอร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ “นายหัวชวน” ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ ประกาศจุดยืนชัด ทำให้ภายในพรรคแตกออกเป็นสองฝั่ง

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามแรงต้านจาก “ฐานเสียง-ฐานแฟนคลับ” ของพรรคประชาธิปัตย์เองด้วย เพราะจุดยืนทางการเมืองที่ผ่านมาคือการต่อสู้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อเข้าร่วมรัฐบาลเดียวกัน จะทำให้เสียจุดยืน จนกระทบความนิยมหรือไม่

เมื่อจำแนกการจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” เลือกเดินเกม นับจำนวน สส. มากกว่ายึดการเข้าร่วมรัฐบาลทั้งพรรค เพราะต้องการตัวเลข สส.ให้มากที่สุด ซึ่งอยู่ราวๆ 314-320 เสียง เนื่องจากต้องการดับอหังการ์อำนาจสภาสูงของค่าย “สีน้ำเงิน” ซึ่งมีอยู่ 70 เสียง

เพราะหาก “สีน้ำเงิน” แข็งข้อ-แข็งเมือง เมื่อไหร่ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ยังมีเสียงสำรองเอาไว้ เพื่อดันให้จำนวนเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเกิน 251 เสียง 

การจัดตั้ง ครม.“แพทองธาร 1” อาจดูผิดฝา-ผิดฟอร์ม ยี่ห้อ “ทักษิณ”พอสมควร เมื่อตัวเลข สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่คุมได้เบ็ดเสร็จมีจำนวนจำกัด แถมหนี้แค้นเก่า ก็ต้องเช็คบิล สถานการณ์รัฐบาลเพื่อไทยภาค 2 จึงยืดเยื้อลากยาวกว่าที่คาดการณ์เอาไว้