'สว.นันทนา' หนุนแก้รธน. แก้ปัญหาองค์กรอิสระ อำนาจล้นเกินฝ่ายบริหาร

'สว.นันทนา' หนุนแก้รธน. แก้ปัญหาองค์กรอิสระ อำนาจล้นเกินฝ่ายบริหาร

"นันทนา" ชี้ ว่าที่ 11 รมต. ถูกสอบประวัติเข้ม เป็นปัญหาใหญ่ หนุนแก้รธน. หั่นอำนาจองค์กรอิสระที่ล้นเกินฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ

ที่รัฐสภา สว.นันทนา นันทวโรภาส ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่พบว่ามีว่าที่รัฐมนตรีถูกยื่นตรวจสอบ 11 คน ว่า การตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเข้มข้น เพราะหากตั้งพลาดเพียงตำแหน่งเดียวผู้ที่แต่งตั้งอาจต้องพ้นจากตำแหน่ง อย่างไรก็ดีตนมองว่าการให้องค์กรอิสระเข้ามามีอำนาจกว้างขวางและล้นเกินฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และสามารถปลดผู้นำสูงสุดได้ ถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีทางแก้คือทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยจำกัดขอบเขตขององค์กรอิสระ เพื่อไม่ให้มีอำนาจล้นเกิน และยึดหลักการคานอำนาจระหว่างกัน การคานและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวถามมว่าไม่ดีหรือที่การตรวจสอบคนที่เป็นรัฐมนตรีทำอย่างเข้มข้น น.ส.นันทนา กล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนอยากได้คนที่มีประวัติที่สะอาด ซื่อสัตย์สุจริต พร้อมๆกับคุณสมบัติด้านอื่น เช่น ความรู้ความสามารถและศักยภาพด้านต่างๆ แต่ไม่ใช่การตรวจสอบภูมิหลัง แล้วนำมาเป็นดัชนีชี้วัดเพียงตัวเดียวในการขึ้นดำรงตำแหน่ง

"คนที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งคงต้องฟูมฟักกันตั้งแต่เกิด คุณสมบัติไม่ด่างพร้อยหรือมีอะไรเสียหาย ซึ่งการวินิจฉัยแบบนี้ และบทลงโทษถือว่าไม่ได้สัดส่วน ไม่ควรย้อนพฤติกรรมในอดีตมาชี้ว่ามีพฤติกรรมผิดจริยธรรมร้ายแรง ดังนั้นควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมและได้สัดส่วน แต่ยอมรับว่าควรต้องมีบทบัญญัติจริยธรรม จะบอกว่าไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่ควรตรวจสอบการเฉพาะเรื่องเล็กเรื่องน้อย" น.ส.นันทนา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าอะไรเป็นเรื่องเล็กน้อย และกรณีของนายพิชิต ชื่นบาน ถือว่าเล็กน้อยหรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า กรณีของนายพิชิตเป็นตัวอย่างหนึ่งที่หัวหน้ารัฐบาลมองว่าอาจจะไม่ร้ายแรงที่จะตั้งเข้ามาได้ หรือกรณีของนักการเมืองอีกหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตด้วยเหตุการณ์ที่ทำมาในอดีต และไม่ได้สัมพันธ์กับสิ่งที่เป็นการกระทำในปัจจุบัน ตนคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับโทษนั้น.