'พยม-ชารีฟุดดีน' เชียร์ตั้ง'สามารถ'นั่งโฆษกพปชร.สู้บทบาทฝ่ายค้าน

นายพยม พรหมเพชร อดีต สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคว่า ยังคงเป็นกลุ่มคนเดิม ๆ ที่วันนี้ยังไม่มียุทธศาสตร์ที่แน่ชัดในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่สำคัญวันนี้พรรคพลังประชารัฐคือ พรรคฝ่ายค้าน

ดังนั้น สิ่งที่ต้องพัฒนาปรับปรุงคือ คนที่จะมาทำหน้าที่โฆษกเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ที่ผ่านมาพรรคไม่มีโฆษกพรรคมีเพียงแค่ทีมโฆษกเท่านั้น การประชาสัมพันธ์ของพรรคจึงอ่อนไปทันที

นายพยม กล่าวต่อว่า ตนเห็นมีแต่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เพียงคนเดียวที่ออกมาตอบโต้ข่าวต่างๆ ที่มีการโจมตี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพรรคพลังประชารัฐ อย่างต่อเนื่องมานานนับ 6ปี   รวมถึงการขึ้นเวทีดีเบตกับนักการเมืองพรรคอื่น ๆ  นายสามารถก็ทำได้ดีมาก มีความรู้รอบตัว ซึ่งวันนี้ตนมาจากภาคใต้เพื่อมาติดตามว่าพรรคจะมีตำแหน่งให้กับนายสามารถหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ผิดหวัง แต่ตนเป็นเพียงแค่คนตัวเล็ก ๆ คงทำอะไรไม่ได้ จึงต้องฝากผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาคนมีความรอบรูัอย่างนายสามารถด้วย เพื่อที่พรรคจะพัฒนาต่อไปได้

“ความคิดเห็นส่วนตัวของผม สิ่งที่นายสามารถทำงานให้กับ พล.อ.ประวิตร มาต่อเนื่อง พิสูจน์ได้ว่า นายสามารถมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะปฎิบัติหน้าที่โฆษกพรรคทุกประการ แต่หากว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เล็งเห็นความสำคัญ ผมคิดว่านายสามารถควรที่จะไปอยู่ที่อื่นได้แล้ว เพราะเท่าที่เห็นนายสามารถก็เหน็ดเหนื่อยมามาก ก็ควรที่จะได้ตำแหน่งมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจที่จะทำงานต่อไป เพราะการทำหน้าที่ปะฉะดะแบบนี้หมายความว่า จะมีศัตรูเพิ่มขึ้นแน่นอน“นายพยม กล่าว

ด้านนายชารีฟุดดีน สารีมิง อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป ปัจจุบันเป็น สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคในวันนี้ว่า ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร ซึ่งก็คงคาดเดาตัวบุคคลได้ ตนมองว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก พรรคพลังประชารัฐเองก็ควรที่จะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาผสมผสานการทำงานภายในพรรคด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถานะของพรรคที่ต้องทำหน้าที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน

“ผมหวังว่า คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานที่ทีคนรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาทำงานเพิ่มเติม การที่เราเป็นพรรคฝ่ายค้าน บทบาทที่จะสื่อสารก็จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน ผมคิดว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สามารถทำหน้าที่โฆษกพรรคได้ ข้อแรกเลยคือ ความรู้ทางด้านกฎหมาย และนายสามารถจะทำให้พรรคพลังประชารัฐกลับมามีกระแสทางการเมืองได้อีกครั้ง“นายชารีฟุดดีน กล่าว

นายชารีฟุดดีน กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐเกิดวิกฤติแตกแยกกันออกเป็น 2 กลุ่ม ตนยังไม่เคยเห็นสมาชิก หรือ สส.คนใดที่ออกมาชี้แจงหรือสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจอย่างนายสามารถเลย และถือเป็นภาพจำของประชาชนว่า นายสามารถคือสายตรงของ พล.อ.ประวิตร นาทีนี้จึงไม่มีใครเหมาะสมเท่านายสามารถแล้ว

”ความสำคัญของโฆษกพรรคคือ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพรรค ประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายต่าง ๆของพรรคได้ และที่สำคัญคือ สามารถตอบโต้ประเด็นทางการเมืองได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้นายสามารถมีครบทุกข้อ กล้าชน กล้าพูด กล้าทำ กล้าตอบคำถาม“นายชารีฟุดดีน กล่าว