'สว.' ห่วง 'รัฐบาล' ใช้งบฯ68ไม่คุ้มค่า แนะให้ยึดหลักธรรมภิบาล-โปร่งใส
สว. ตั้งข้อสังเกต ร่าง กม.งบฯ68 ไม่คุ้มค่า แนะ “รัฐบาล” ยึดหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยี้ “แจกเงิน” เพื่อกกระตุ้นเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา วาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ว่า สว. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทั้งนี้มีส่วนที่ชื่นชมให้กำลังใจรัฐบาล และส่วนหนึ่งที่ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ที่ส่อว่าไม่โปร่งใส โดยเฉพาะการใช้งบเพื่อกระตุ้นเศษฐกิจที่ควรพิจารณาการปฏิบัติให้รอบคอบ และไม่ทำผิดกฎหมาย
โดย น.ต. วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. อภิปรายว่าในส่วนของงบกระทรวงกลาโหม ว่า ควรมีหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ไม่ทำอะไรลึกลับ รวมถึงต้องซื่อสัต์ สุจริต คุ้มค่า ทั้งนี้ควรลดอัตรากำลังให้ลดน้อยลง และจัดสวัสดิการที่ดีให้กับนายทหารชั้นผู้น้อย
ขณะที่ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. อภิปรายว่า ตนคิดว่า งบปี68 เป็นการใช้งบฯที่ไม่คุ้มค่าและไม่โปร่งใส เพราะเป็นโครงการประชานิยม เข้าใจได้ว่าการแจกเป็นโครงการเรือธงของรัฐบาล แต่การแจกเงินเพื่อกระตุ้นการอุปโภค บริโภคที่มีลักษณะเฉพาะกิจ ทำไมรัฐบาลไม่ใช้การกระตุ้นภาคการลงทุนและภาคการผลิต เพราะใช้เม็ดเงินที่น้อยกว่า ตนชื่นชมในรัฐบาลชุดที่แล้วเขาใช้เงินจำนวนเดียวกัน แต่เขาสามารถกระตุ้นยอดเศรษฐกิจได้ถึง2 เท่า คือ โครงการคนละครึ่ง
“โครงการแจกเงินนี้ ไม่โปร่งใส ตรวจสอบยาก เพราะเอาโครงการนี้ไปใส่ไว้ในงบกลาง คือใช้กลยุทธ์แบบแอบๆซ่อนๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่ารัฐบาบมีเจตนาทุจริตหรือไม่ หรือไม่ต้องการให้สมาชิกวุฒิสภา ที่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบได้ ทั้งนี้ผมอยากให้รัฐบาลแยกงบก้อนนี้ออกไป เหมือนกับเป็นงบเพิ่มเติมปี 67 จะดีกว่า” นายพิสิษฐ์ อภิปราย
นายพิสิษฐ์ อภิปรายต่อว่า กลยุทธ์ของรัฐบาลคือการไปล่วงลับ ดัด ดึง คือไปเอางบฯจากส่วนต่างๆ ตัโน้นตัดนี้มา เพื่อมาใช้โครงการนี้ เพราะอยากจะได้เม็ดเงินมาก เนื่องจากผผู้ลงทะเบียนกับ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงนโยบายขอไปเป็นงบเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.65 หมื่นล้านบาทเพื่อมาทำดิจิทัลวอลเล็ต สุดท้ายวันนี้ได้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯคนใหม่ เห็นบอกว่า ไม่เอาแล้ว ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต จะแจกเป็นเงินสดแทน แบบนี้คืออะไร ขอมาอย่าง ไปทำอีกอย่าง อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ หรือมองว่าวุฒิสภาเป็นแค่ตราประทับหรือไม่ ประทับเสร็จแล้วจะเอาไปทำอะไรก็ได้ใช้หรือไม่
ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายซึ่งตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบ 5 ประเด็น
1. ในสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้มองว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ควรจัดสรรงบประมาณทุ่มไปกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและซอฟพาวเวอร์ ไปจนหมดหน้าตัก
2. งบบุคลากรค่าใช้จ่ายประจำเป็นภาระของกระทรวงการคลัง ร้อยละ62 จากจำนวนบุคลากรภาครัฐ 3.3 ล้านคน ทำให้ไม่มีงบประมาณเหลือไปฟื้นฟูประเทศ
3. ตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะพิจารณาโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐทั้งระบบ
4. งบประมาณมาจากเงินภาษีประชาชน วุฒิสภาจะต้องทำตามความประสงค์ให้ภาษีของประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุดคาด หวังกระบวนการจัดทำงบประมาณที่ประชาชนมีส่วนร่วม วอนเลิกทำงบประมาณแบบไม่เห็นหัวประชาชน
5. ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองและคุณภาพทางการศึกษาของไทย
“ควรเลิกวิธีการปฎิบัติทำงบประมาณแบบไม่เห็นหัวประชาชน ทั้งนี้ หน่วยงานใดที่มีปัญหาทุจริตมากๆหรือมีหลักฐานว่ามีการใช้เงินภาษีของประชาชนไปในทางที่ไม่เหมาะสมเช่น ผู้บริหารราชการช่วยโอกาสใช้เงินภาษีประชาชนไปดูงานต่างประเทศมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากในสารระบบของราชการไทย รัฐสภาต้องตัดงบประมาณหน่วยงานนั้นยิ่งทุจริตมากหรือใช้เงินไม่เหมาะสมมาก ต้องตัดงบประมาณหน่วยงานนั้นให้มาก” น.ส.นันทนา กล่าว.