'ปธ.สส.พท.' บอกเหตุผลเลือกตั้งซ่อม ชนะ เหตุ 'คนพิษณุโลก' เชียร์ 'แพทองธาร'
"วิสุทธิ์" ขอบคุณ คนพิษณุโลก เทเสียงชนะเลือกตั้งซ่อม แจงเหตุผลคนเข้าใจพรรค-เชียร์ "แพทองธาร" เมินเสียงโนโหวต
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานสส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.พิษณุโลก ที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะว่า ต้องกราบขอบคุณพี่น้องชาวพิษณุโลก ที่เลือกส.สพรรคเพื่อไทยเข้ามาอีก 1 เสียง ซึ่ง 1 เสียงก็ถือว่ามีความหมายเพราะมาเติมเสียงของรัฐบาลให้มากขึ้น และเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวพิษณุโลกทำถูกต้องที่เลือกพวกเราให้ไปดูแล
“เท่าที่จำได้เกือบจะ 20 ปีที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ตอนนี้ชาวบ้านคิดได้ว่าอยากให้พิษณุโลกพัฒนาก้าวหน้า จึงเลือกพวกเรา ทำให้ขณะนี้จังหวัดพิษณุโลกมีสส.จากพรรคเพื่อไทย 3 คน จะได้ช่วยผนึกกำลังกันทำงานเพื่อชาวพิษณุโลก”นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าผลการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะเป็นการสะท้อนอะไรบ้าง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนเข้าใจพวกเรามากขึ้น อาจจะให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และอีกหลายเรื่องก็คงเห็นว่ารัฐบาลทำงานอย่างจริงจังเข้าถึงพี่น้องประชาชน และประชาชนได้ประโยชน์จากรัฐบาล พลังเสียงที่ออกมาชนะจึงขาดลอย
เมื่อถามถึงเสียงโนโหวตกว่า 7,000 คะแนน ถูกมองว่าคนเบื่อรัฐบาลและฝ่ายค้าน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เสียงที่พรรคเพื่อไทย ได้รับ 3 หมื่นกว่าคะแนน ไม่ถือว่าเป็นการเบื่อรัฐบาล แต่ที่คนไม่ลงคะแนนให้อาจจะไม่รู้จักผู้สมัคร เพราะเราย้ายผู้สมัครจากเขต 3 มาลงเขต 1 หรือบางเรื่องบางอย่างอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าต่อไปเมื่อมี สส.แล้ว คนที่ไม่ใช้สิทธิ์ลงคะแนน จะได้ลง แล้วจะมาเลือกเรามากขึ้น เพราะจะได้สื่อถึงพี่น้องชาวพิษณุโลกโดยตรง
เมื่อถามว่าคำพูดที่ว่าการชนะเลือกตั้งยากแล้ว แต่การรักษาเก้าอี้ยากกว่า พรรคเพื่อไทยมั่นใจได้อย่างไรว่าจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมทุกสนาม ไม่ใช่เฉพาะที่จังหวัดพิษณุโลก มีเลือกตั้งที่ไหน หรือมีเลือกตั้งซ่อมที่ไหน พรรคเพื่อไทยพร้อมไปได้ทันที ซึ่งยิ่งสร้างความมั่นใจ มั่นคงให้กับพี่น้องประชาชน และส.สในพรรคก็มีกำลังใจขึ้นเยอะมาก
ส่วนที่พรรคประชาชนมองว่าเป็นเกมระยะยาว และยังต้องต่อสู้กับชนชั้นนำด้วย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า "พวกเราไม่ใช่ชนชั้นนำ แต่เป็นพวกอาสาประชาชนมาทำการเมือง คุณจะสู้กับพวกชนชั้นนำไหน ผมไม่ทราบ ไม่อยากไปวิจารณ์คำพูดนี้"