'พร้อมพงศ์' แฉหลักฐาน 'ประวิตร' ลาประชุม84 ครั้งจาก95 ครั้ง ส่อขัดจริยธรรม

'พร้อมพงศ์' แฉหลักฐาน 'ประวิตร' ลาประชุม84 ครั้งจาก95 ครั้ง ส่อขัดจริยธรรม

"พร้อมพงศ์" หอบหลักฐาน มา-ลา-ขาด ประชุมสภาฯ สอบ "ประวิตร" ผิดจริยธรรม พบลา 84 ครั้งจากประชุม 95 ครั้ง บางสมัยลา100%

ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม เพื่อตรวจสอบกรณีการไม่มาประชุมสภาฯของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั้นผิดต่อประมวลจริยธรรมของสส.หรือไม่

โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลวันลา มา ขาด การประชุมสภาฯ จากสำนักงานเลขาธิการสภาฯ  ของพล.อ.ประวิตร ตั้งแต่ 3 ก.ย. 2566 ถึงปัจจุบัน พบว่าพล.อ.ประวิตรลงชื่อมาประชุมโดยใช้บัตรลงทะเบียน 11 ครั้ง ลาป่วย 1 ครั้ง ลากิจ 83 ครั้ง รวมวันขาดประชุม  84 ครั้ง จากวันประชุมรวม 95 ครั้ง ที่สำคัญมีอยู่หนึ่งสมัยประชุม พล.อ.ประวิตร ลาทั้งสมัยประชุมฯครบ 100 % โดยอ้างเหตุผลติดภารกิจ ซึ่งการลาลักษณะดังกล่าวถือเป็นการลาที่มีเจตนาพิเศษ จงใจขาดประชุมโดยใช้การลาเป็นฉากบังหน้า

นายพร้อมพงศ์ กล่าวโดยเชื่อว่ามีการใช้อำนาจแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ เป็นการกระทำที่ขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าสส.จะขาดประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุมในสมัยประชุมและข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสส.ที่ระบุว่าสส.ต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม ต้องไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย

"ผมพบข้อมูลว่าในวันที่พล.อ.ประวิตร แจ้งลาติดภารกิจ ไม่เข้าประชุมสภา บางวันก็ไปนั่งเชียร์วอลเลย์บอลผ่านออนไลน์ เปิดบ้านป่ารอยต่อให้คนไปอวยพรวันเกิด หรือลาเพื่อไปประชุมพรรคแบบเรียกว่าเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ที่สำคัญการขาดประชุมโดยใช้การลาน่าจะเป็นฉากบังหน้า ลาติดต่อกันทั้งสมัยประชุมฯ ถือได้ว่า พล.อ.ประวิตรขาดสมาชิกภาพการเป็นสส.แล้ว ผมหวังว่ากรรมการจริยธรรมฯจะตรวจสอบเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือให้พ้นผิดจนเสียเกียรติภูมิของสภาฯ"นายพร้อมพงศ์กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าตนทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าการมาประชุมของพล.อ.ประวิตร เหมือนเหยี่ยว คือ โฉบมาลงชื่อ และตนขอตั้งคำถามว่าพล.อ.ประวิตร ได้ให้บุคคลอื่นนำบัตรประจำตัว สส. ไปดำเนินการลงชื่อเข้าประชุมแทนจริงหรือไม่ ทั้งนี้ในกรณีดังกล่าวนั้นตนจะไปยื่นเรื่องขอให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ ค้นหาความจริงในวันที่  27 ก.ย. นี้ด้วย.