'รอมฎอน' อ้างหนังสือ'วันนอร์' ม.125 เปิดช่องส่งตัว 'พิศาล' ดำเนินคดีตากใบ

ที่รัฐสภานายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคประชาชน แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ 1. คดีตากใบ หากนับถอยหลังถึงวันที่25ต.ค.อายุความของคดีนี้ไม่ว่าจะสำนวนไหนไหนจะเหลือแค่ 30 วัน หรือ 1 เดือนเท่านั้น ตอนนี้ก็นับถอยหลังไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ต้องจับตาความคืบหน้าของกระบวนการยุติธรรมจะทำงานได้ดีหรือไม่ คดีตากใบแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่ราษฎรจำนวน 48 คน ฟ้องเองต่อศาลจังหวัดนราธิวาสประทับรับฟ้อง และเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา มีการนัดเบิกความให้การไปแล้วครั้งหนึ่งซึ่งจำเลยทั้งหมด เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงยังไม่ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดนราธิวาส

ดังนั้น จึงออกหมายจับ จำนวน 6 คน จำเลยที่ 1 ศาลกรุณาออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง คือพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากจำเลย และตำรวจว่ามีการจับกุมคนที่ออกหมายจับได้หรือไม่

สิ่งที่ตนเรียกร้องต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของให้ สส.เดินทางมายังศาลจังหวัดนราธิวาสก็ยังไม่มีการตอบรับเช่นกัน ล่าสุดเท่าที่มีการชี้แจงกับสื่อทั้งพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทำให้เราทราบว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตอบหนังสือจากศาลจังหวัดนราธิวาส ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับ รัฐธรรมนูญ มาตรา 125 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"พูดโดยสรุปคือการดำเนินคดีของศาลสามารถทำได้เลยตราบใดที่การนัดศาลเหล่านั้นจะไม่เป็นการขัดขวางการประชุมสภา ซึ่งนับครั้งถัดไปวันที่15ต.ค.อีก20วันหลังจากนี้ ซึ่งเป็นวันอังคารไม่มีการประชุมสภา จึงไม่น่าขัดขวางการประชุมสภาฯของท่านสส.ที่ตกเป็นจำเลย"

อย่างไรก็ตาม ตนทราบมาว่าทางฝ่ายโจทก์ อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำหนังสือถึงศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ สส.พรรคเพื่อไทย จึงขอฝากสื่อมวลชนช่วยติดตาม

นายรอมฎอน ยังกล่าวว่า 2. คดีนักกิจกรรมมลายู  ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย. 67)  ทางอัยการมีการฟ้องดำเนินคดี กิจกรรมมลายูทั้ง 9 คน จากคดีที่มีการรวมตัวกันชุมนุมที่ หาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว คดีนี้เป็นคดียุทธศาสตร์เป็นคดีสัญลักษณ์เพราะว่าเป็นการชี้ขาดว่าประเทศจะเปิดโอกาสให้ประชาชนคนธรรมดาที่ไม่ติดอาวุธใช้การเคลื่อนไหวแบบสันติวิธี มีปากมีเสียงเป็นมิตรกับทางการเมืองมากน้อยเพียงใด ดังนั้น  ขอฝากให้นายกรัฐมนตรีติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด

3. การพูดคุยสันติภาพสันติ  ตนทราบว่ารองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงยังไม่ชัดเจน และจะมีการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติภาพชุดใหม่หรือไม่ ตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่น่าเป็นห่วง มีทิศทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร ต้องสื่อสารอย่างเร็วไม่เช่นนั้นความรุนแรงจะกลับเข้ามา 

ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วยตนจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียในสัปดาห์หน้าเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมืองทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะที่ประเทศมาเลเซียจะมีการนัดหมายพูดคุยเกี่ยวกับสันติภาพ หวังว่าจะได้รับความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกับฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของคณะ กมธ.