'กลุ่มหนุนนิรโทษกรรม112' ชี้ 'สภาฯ' เลื่อนถกรายงาน เหตุกลัวล้างผิดม.112
"ภาคประชาชน" ซัด คนค้านนิรโทษกรรมม.112 ไร้เหตุผล จับตารายงานกมธ.นิรโทษกรรมเลื่อนถก ชี้เพราะกลัว ด้าน "อังคณา" ซัดกมธ.นิรโทษกรรมบางคนไร้จรรยาบรรณ
ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในงานรำลึกครบรอบ 48 ปี 6 ตุลาฯ 2519 มีเวทีเสวนา “จาก 21 ถึง 67: แนวทางนิรโทษกรรมประชาชน” โดยมีนักวิชาการและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนางอังคณา นีลไพจิตร สว. ฐานะอดีตคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนสนับสนุนให้มีกฎหมายนิรโทษกรรรม เพื่อให้สังคมเดินหน้าไปได้ อย่างไรก็ดีในทิศทางของการนิรโทษกรรม ที่ล่าสุด กมธ.ชักเข้าชักออกต่อการเสนอรายงานต่อสภาฯ ทำให้ตนกังวลใจ ทั้งนี้ในการทำงานของ กมธ.นิรโทษกรรม มองเหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2548 หลายคนที่โดนคดี เช่น กปปส. ถูกยึดทรัยพ์ หรือ 2553 มีคนถูกข้อหาก่อการร้ายและยึดทรัพย์ทั้งครอบครัว และไม่มีเงินส่งบุตรเรียนหนังสือ กระทบต่อชีวิตคนจำนวนมาก อย่างไรก็ดีสำหรับรายงานนิรโทษกรรมเป็นเพียงข้อเสนอความเห็นไม่ใช่การเสนอร่างกฎหมาย
นางอังคณา กล่าวว่า การนิรโทษกรรม คดีมาตรา 112 ที่พบเสียงคัดค้าน เพราะความกลัว ทั้งนี้มาตรา 112 กมธ.ได้ถกเถียงกันจำนวนมาก ทั้งนี้ในช่วงท้ายตนได้ลาออกมาจากกมธ. เพราะได้รับเลือกเป็นสว. ทราบว่ามีการนำภาพ ของ กมธ. ที่พูดถึงเรื่อง มาตรา112 มากาหัว การกระทำแบบนั้นถือว่าไม่รับผิดชอบและไร้จรรยาบรรณ ไม่ควรบอกว่าตนเองเป็นนักการเมือง ทั้งนี้มีการเปิดพื้นที่ที่คุยกัน แต่ไม่ใช่ว่าคุยในกมธ. แต่กลับพูดข้างนอกกมธ.อีกแบบ สะท้อนให้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ
ขณะที่นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า คนที่เปิดเกมนิรโทษกรรม คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุว่าต้องสามัคคีปรองดอง ทำให้กลุ่มตนต้องร่วมเล่นเกมดังกล่าวด้วย เพราะประเด็นที่พวกเขาทำคือ นิรโทษกรรมให้พรรคพวกของตัวเอง และเอาคนบางคนที่เกลียดขังในคุก ตนต้องให้เพื่อนออกมาจึงกระโดดร่วมเล่นเกมดังกล่าว และทำกิจกรรมนิรโทษกรรมประชาชน อย่างไรก็ดีได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลเพื่อให้ช่วยเพื่อนออกมา แต่รัฐบาลไม่ทำ ทำให้มีการรณรงค์เข้าชื่อยื่นร่างกฎหมายต่อสภาฯ แล้ว ด้วยประชาชน 3.9หมื่นชื่อ ทั้งนี้มีโอกาสสูงที่สภาฯจะโหวตตกเพราะความไม่กล้า
นายยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า การนิรโทษกรรมที่มีผู้คัดค้านไม่ให้นิรโทษกรรมมาตรา 112 เพราะระบุว่าไม่ใช่คดีการเมือง และเป็นคดีความมั่นคง แต่รายละเอียดพบว่าคดีก่อการร้าย กบฎ ยังได้รับการนิรโทษกรรมทำให้ตนมองว่าข้ออ้างดังกล่าวไม่มีเหตุผล
“คดี 112 เป็นคดีเดียวที่จะเอาคนเข้าคุกจริงจัง และยังมีข้ออ้างว่า คดี 112 หากนิรโทษกรรมไปแล้วไม่มีหลักประกันว่าออกมาแล้วจะไม่ทำ ทั้งนี้คดีเสื้อเหลืองที่จะได้นิรโทษกรรม ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ออกมาล้อมทำเนียบรัฐบาลอีก หากบอกว่าต้องรับประกัน 100% ไม่ออกมาชุมนุมอีก ไม่ต้องนิรโทษกรรมให้ใครเลย ดังนั้นการไม่นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 จึงไม่มีเหตุผล มีแต่ข้ออ้าง และไม่กล้า ผมขอวิงวอน สส.ที่ไม่กล้า ไม่ต้องพูด หรือพูดออกว่าไม่โหวตเพราะกลัวตาย แต่หากพูดเพราะวาทะกรรมห่วยๆ ขอให้เลิกพูดเพราะเข้าตัว” นายยิ่งชีพ กล่าว
นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า การเลื่อนพิจารณารายงานของกมธ.นิรโทษกรรมฯ เป็นสัญญาณว่าไม่รีบ สิ่งที่ต้องทำคือ ให้สภาฯ พิจารณารายงานของกมธ. โดยสังคมต้องพูดเพื่อให้ความสำคัญกับคนที่จะถูกเข้าเรือนจำ ปัจจุบันอยู่ในเรือนจำ 45 คน และรอการพิพากษาอีก 20 คดี ดังนั้นเชื่อว่าจะมีคนที่เข้าเรือนจำอีกจำนวนมาก ดังนั้นต้องพูดเพื่อให้เกิดแรงกดดัน
ทางด้าน น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่าตอนหนึ่งบนเวทีเพื่อประกาศตามหาคนหาย พร้อมขึ้นภาพประกอบ ที่พบว่าเป็นภาพของ พ.อ.พิศาล วัฒนพงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะแม่ทัพภาค4 และระบุว่าขอเรียกร้องให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยตามหาคนหายซึ่งเป็นจำเลขในคดีตากใบที่อีกไม่กี่วันจะขาดอายุความแล้ว.