'สว.' ตะเพิด 'รมว.คมนาคม-อธิบดีกรมขนส่ง' ลาออก รับผิดชอบ บัสมรณะ

'สว.' ตะเพิด 'รมว.คมนาคม-อธิบดีกรมขนส่ง' ลาออก รับผิดชอบ บัสมรณะ

"วุฒิสภา" ถกญัตติไฟไหม้บัสนักเรียน จ.อุทัยธานี พบสว.ร่ำไห้ร่ายกลอน อาลัย - ทวงความรับผิดชอบ รมว.คมนาคม-อธิบดีกรมขนส่งทางบก ด้วยการลาออก

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีรถบัสทัศนศึกษา โรงเรียน ในจังหวัดอุทัยธานี เกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อ 1 ต.ค. เสนอโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและดำเนินการ

โดยนายวุฒิชาติ แถลงเหตุผลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เศร้าสะเทือนใจทั้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียและสังคม อีกทั้งยังก่อให้เกิดคำถามหรือข้อสงสัยมากมายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของตัวรถ มาตรฐานในการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของตัวรถจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ความรู้และความสามารถของคนขับรถในการระงับเหตุ รวมถึงความซักซ้อมให้ผู้โดยสารที่เกิดเหตุ ประเด็นสำคัญที่จะต้องร่วมกันพิจารณาคือแนวทางช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาทางด้านจิตใจของญาติ ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญไม่น้อยกว่าการหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 

“เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รัก ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของสมาชิกในครอบครัว การสูญเสียดังกล่าว จึงสมควรได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม แม้ว่าการเยียวยาดังกล่าวจะไม่เพียงพอ ไม่คุ้มค่าต่อการเสียคนในครอบครัวไป จึงเป็นเหตุผลที่ตนเสนอญัตติดังกล่าวเพื่อให้วุฒิสภาร่วมกันพิจารณาศึกษาหาสาเหตุที่แท้จริงและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำอีก” นายวุฒิชาติ กล่าว 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานมีสว.ร่วมลงชื่ออภิปรายในญัตติดังกล่าว 22 คนโดยได้แสดงความเห็นเสนอแนะให้ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม รวมถึงกระทรวงยุติธรรม รับข้อคิดเห็นไปปฏิบัติ ทั้งนี้บรรยากาศการอภิปรายมีหลากหลายทั้ง อภิปรายด้วยความเศร้าเสียใจ และ ความโกรธ

โดย น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สว. กล่าวด้วยเสียงโศกเศร้าและบางช่วงน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า การทัศนศึกษาของนักเรียนถือเป็นการไปเที่ยวครั้งแรก แต่กลับกลายเป็นครั้งสุดท้าย เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในสังคมไทย เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรตั้งคำถามถึงทำไมถึงปล่อยให้เกิดความไม่ปลอดภัยสังคม โศกนาฏกรรมดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ถ้าผู้ใหญ่รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ตัวเองรับไว้อย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา 

น.ส.รัชนีกร กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการทัศนศึกษา ยังเป็นกิจกรรมที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน ซึ่งการเรียนรู้ไม่ได้มีเฉพาะในห้องเรียนแต่ยังมีนอกห้องเรียนด้วย จะทำอย่างไรให้การทัศนศึกษาเป็นไปได้อย่างปลอดภัย  

น.ส.รัชนีกร กล่าวต่อว่าตนมอบกลอนบทหนึ่งแต่งเอง ความว่า ขอน้อมส่งเด็กน้อยน้อยไปบนฟ้า ขอกล่าวลาลูกลูกวัยสดใส ขอความสุขทุกที่ที่หนูไป เดินทางไกลคราวนี้ให้ร่มเย็น ไม่มีเจ็บไม่มีปวดแล้วลูกจ๋า ห้องเรียนคงว่างเปล่ากว่าเคยเห็น บ้านคงเงียบวังเวงกว่าเคยเป็น ทุกเช้าเย็นเสียงร่ำไห้แทบขาดใจ ครูกอดการกั้นเด็กเป็นกำแพงมนุษย์ สิ่งท้ายสุดที่เรารับรู้ได้ คือคุณครูปกป้องสิทธิ์ด้วยหัวใจ ขอกราบไหว้คารวะจิตวิญญาณ ขอสดุดีคุณครูผู้เสียสละ แบกภาระการดูแลสิทธิ์ของท่าน ทำหน้าที่สมเกียรติจนวายปาน ขอกราบกรานยกมือวันทาครู ขอน้อมส่งทุกชีวิตที่ปลิดสิ้น เสียงร่ำไห้ที่ได้ยินยังก้องหู ขอให้ลูกนักเรียนและคุณครู เดินทางสู่สัมปรายภพอันงดงาม 

ขณะที่ พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์ สว. อภิปรายช่วงหนึ่งว่า ตนขอเรียกร้องให้ผู้บริหารของกระทรวงคมนาคมลาออก โดยขอยกตัวอย่างเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอล ประเทศเกาหลีใต้เป็นบรรทัดฐาน ซึ่งจากเหตุการณ์นั้น เจ้าหน้าที่เรือยังต้องผูกคอตาย นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นยังประกาศลาออก ประธานาธิบดีโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง ตนจึงถามหาความรับผิดชอบ

“รัฐมนตรีคมนาคมท่านต้องลาออก อธิบดีกรมขนส่งทางบกท่านต้องลาออก เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับคนไทย ผมไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เคยทำ  ผมฝากถึงผู้บริหารในรัฐบาลว่าอย่าให้มันเกิดมาอีกเลยครับ ขอให้ท่านดำเนินการในส่วนนี้ กำกับดูแลให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบที่แท้จริง” พล.ต.ท.วันไชย กล่าว

ขณะที่  น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายเพื่อเรียกร้องไปยังกระทรวงศึกษาธิการต่อการจัดทัศนศึกษา ทั้งนี้ควรประเมินผลสัมฤทธิ์ที่สอดคล้องกับวัยที่จะเรียนรู้หรือไม่ ถ้าการเดินทางสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในประเด็นทัศนศึกษาที่กำหนดให้เป็นแผนการเรียนรู้ที่กระทรวงศึกษาเป็นผู้กำหนดที่พบว่ามีการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอต่อการเดินทางที่คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนการจัดสรรงบประมาณ รวมถึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแลความปลอดภัยของยานพาหนะต่างๆ เอาจริงต่อการตรวจสอบ

พร้อมตั้งข้อสังเกตต่อการละเลยการตรวจสอบความปลอดภัย ว่า อาจมีการทุจริต ขายลายเซ็นต์เพื่อรับรองให้กับผู้ประกอบการ โดยละเลยการกำกับตามกฎหมายอย่างจริงจัง.