'บุญยิ่ง' เผย 'ดิไอคอน' เคยถูกสอบมาแล้วในสภาฯชุดที่แล้ว ผลจบลงด้วยดี

'บุญยิ่ง' เผย 'ดิไอคอน' เคยถูกสอบมาแล้วในสภาฯชุดที่แล้ว ผลจบลงด้วยดี

"ปธ.กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค" ย้ำ สอบ "ดิไอคอน" ต้องทำจริงจัง เผยเคยถูก กมธ.ชุดที่แล้วสอบ ผลจบด้วยดี เหตุ อนุกมธ. ส่ง สคบ. ให้เรียกผู้เสียหายไปไกล่เกลี่ย

ที่รัฐสภา นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบกรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ในวันที่ 17 ต.ค. ว่า  ต้องมีการพูดคุยอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนจะชักช้าไม่ได้ อย่างไรก็ดีทราบว่าในสภาฯ​ชุดที่ผ่านมาเคยมีกรณีตรวจสอบบริษัทดังกล่าวในกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ตนให้เจ้าหน้าที่ค้นเอกสารการประชุม และพบว่าสมัยที่แล้ว เรื่องถูกส่งไปยัง อนุกมธ. ก่อนกมธ.จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เป็นผู้เจรจา ซึ่งจบลงด้วยดี

ผู้สื่อข่าวรายงานในสภาฯ​ชุดที่ผ่านมา มีการตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งใน กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ที่มีนายมานะ โลหะวณิชย์ สส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดยช่วงเดือน ม.ค. 2566  มีหญิงรายหนึ่งมาร้องเรียนว่า บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ไม่ได้ดำเนินการตามสัญญา ชักชวนให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า จากนั้นเรื่องดังกล่าวได้ถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมในชั้นอนุกรรมาธิการ ที่มีนางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นประธานอนุกมธ.

\'บุญยิ่ง\' เผย \'ดิไอคอน\' เคยถูกสอบมาแล้วในสภาฯชุดที่แล้ว ผลจบลงด้วยดี  

สาระสำคัญคือหญิงรายดังกล่าว ชี้แจงว่าได้ดูโฆษณาการขาย ออนไลน์ของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ผ่านทางโทรทัศน์ และสนใจเกี่ยวกับการขายออนไลน์ดังกล่าว จึงได้ติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายสินค้า เพื่อสอบถามเงื่อนไขสัญญา ซึ่งตัวแทนจำหน่ายได้ชักชวนให้ลงทุนกับบริษัท  พร้อมทั้งมีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า หากลงทุน ภายในวันที่ 11 ก.ย. 2565 จะได้รับส่วนลด 50,000 บาท ยาสีฟัน 1,050 หลอด โดยจะได้เงินปันผล 5 บาทต่อการขายยาสีฟัน 1 หลอด หญิงรายนั้น จึงตกลงทำสัญญาในราคา 211,115 บาท แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่า ตัวแทนจำหน่ายได้จัดส่งยาสีฟันมาให้ 50 หลอดเท่านั้น จากทั้งหมด 1,050 หลอด โดยหญิงผู้เสียหายมองว่าไม่เป็นไปตามสัญญา จึงส่งยาสีฟันคืนและขอเงินทุนคืนทั้งหมด แต่ตัวแทนได้ปฏิเสธการคืนเงิน 

ขณะที่ผู้แทนของบริษัทดิไอคอน ชี้แจงในชั้นอนุกรรมกรรมาธิการ ว่า บริษัทได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ลักษณะการประกอบธุรกิจ เป็นการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยตัวแทนจำหน่าย ซึ่งบริษัทได้รับแจ้งจาก สคบ. ว่า ผู้ร้องได้มาร้องทุกข์ ว่าถูกชักชวนให้มาสมัครซื้อสินค้า ซึ่งต่อมาเห็นว่าไม่เป็นไปตามที่บริษัทระบุไว้ จึงขอคืนเงิน โดยศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัท ได้โทรศัพท์ไปสอบถามคนที่เสนอเรื่อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับใดๆ พร้อมย้ำว่าในเอกสารหลักฐาน บัตรประชาชนที่ใช้สมัคร มีข้อความระบุว่า ใช้สำหรับทำสัญญาหรือสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย กับบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป เท่านั้น โดยจัดส่งยาสีฟันจำนวน 50 หลอดไปให้ผู้ร้อง แล้วฝากส่วนที่เหลือ 1,000 หลอด ไว้กับคลังของบริษัท ซึ่งหากตัวแทนจำหน่าย ต้องการสินค้าดังกล่าว สามารถสั่งเบิกได้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท แล้วบริษัทจะส่งสินค้าให้ทันที 

ภายหลังการประชุมในชั้นอนุกรรมมาธิการ ที่ประชุมมีมติว่า ให้ส่งเรื่องราวร้องทุกข์ ไปให้สำนักงาน สคบ.เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในวันที่ 20 ม.ค.  2566 โดยภายหลังการไกล่เกลี่ย สคบ.ได้ทำหนังสือกลับมาที่ กมธ. แจ้งว่าคู่กรณีสามารถตกลงกันได้ ให้บริษัทคืนเงินผู้ร้องเป็นจำนวน  211,115 บาท.