'ชัยธวัช' หวังชงสภาฯศึกษาร่างนิรโทษกรรม ย้ำมีข้อเสนอตรงกลาง ไม่โฟกัส ม.112
'ชัยธวัช' ยังหวังเสนอรายงานศึกษานิรโทษกรรมวันนี้ ชี้ถ้ายื้อไปอีก สังคมตกผลึกช้า ลั่นมีข้อเสนอตรงกลาง ไม่ใช่โฟกัสแค่ ม.112 เข้าใจความเห็นทุกฝ่าย แต่ยังไร้เหตุผลที่สภาฯต้องโหวตคว่ำ
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หวังว่าวันนี้กรรมาธิการจะได้มีโอกาสนำเสนอรายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการต่อที่ประชุมสภาฯ เพราะกรรมาธิการเตรียมพร้อมรอไว้แล้ว หวังว่าจะไม่มีวาระอะไรมาแทรก เนื่องจากวานนี้ (16 ต.ค.) ได้รับการยืนยันจากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และวิปรัฐบาลว่า วันนี้จะมีการนำเสนอรายงานของกรรมาธิการแน่นอน เป็นโอกาสที่ดี สส.ทุกฝ่ายจะได้รับฟังข้อเสนอของกรรมาธิการ เป็นความคิดเห็นจากทุกฝ่ายจริง ๆ ไม่ใช่แค่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณีเคยมีการเลื่อนพิจารณารายงานดังกล่าวมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพื่อให้พรรคการเมืองต่าง ๆ พูดคุยกันให้ตกผลึกก่อน นายชัยธวัช กล่าวว่า เท่าที่ทราบในฝั่งพรรคฝ่ายค้านไม่ได้มีการนัดพูดคุยกันกับฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายรัฐบาลเองจะมีการพูดคุยอย่างไรก็ไม่ทราบ ขอยืนยันอีกครั้งว่าการตกผลึกเรื่องนี้ ควรจะเกิดขึ้นภายหลังจากฟังรายงานฉบับนี้ ทั้งนี้ในทางกลับกัน หากชะลอหรือเลื่อนการนำเสนอรายงานออกไปอีก จะทำให้การตกผลึกของสังคมในเรื่องนี้ช้าออกไป
ส่วนในที่ประชุมจะต้องมีการลงมติหรือไม่หากมีความเห็นต่าง นายชัยธวัช กล่าวว่า รายงานของกรรมาธิการไม่ได้มีบทสรุป แต่เป็นข้อเสนอที่รวมความเห็นจากทุกฝ่ายไว้ด้วยกัน โดยที่ไม่ได้ตัดให้เหลือเพียงแนวทางใดแนวทางหนึ่ง คาดหวังหลังเสนอรายงานแล้ว จะเป็นการฟังความเห็นของ สส.และยังเป็นการได้รับฟังความเห็นของสังคม เพื่อให้เกิดการตกผลึก ก่อนนำไปสู่การนำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของแต่ละพรรคการเมืองที่มีวาระเตรียมเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ไว้แล้ว
"ผมยังหวังว่าสภาฯ น่าจะเห็นชอบกับรายงาน รวมถึงข้อสังเกตในการคลี่คลายความขัดแย้งเฉพาะหน้า ระหว่างที่ยังไม่มี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งความจริงไม่มีเหตุที่จะต้องลงมติไม่เห็นชอบ เพราะไม่ใช่ข้อเสนอที่มีแนวความคิดเดียว แต่เป็นรายงานที่เป็นข้อเสนอทางเลือกเชิงนโยบายมากกว่า" นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามถึงบางพรรคการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า ในรายงานฉบับนี้ก็มีข้อเสนอที่ไม่นิรโทษกรรม มาตรา 112 ด้วย และมีการประเมินทั้งข้อดีข้อเสีย รวมถึงมีพื้นที่ตรงกลางอย่างมีนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ของแต่ละฝ่ายอยู่ดี
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า หลังจากสภาได้พิจารณารายงานฉบับนี้แล้ว ยังมีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รออยู่อีก 4 ฉบับ คือฉบับของอดีตพรรคก้าวไกล ฉบับที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชนเสนอร่วมกัน ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติ และฉบับของภาคประชาชน อย่างไรก็ดีในฐานะกรรมาธิการ เห็นและเข้าใจความกังวลของพรรคการเมืองต่าง ๆ รวมถึงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยบ้างในบางคดี จึงนำมาสู่ข้อเสนอทางเลือกที่ 3 ให้มีพื้นที่ตรงกลาง ให้มีกลไกพิจารณาการนิรโทษกรรมเป็นรายคดีไป
"ผมเองเห็นว่าข้อเสนอนี้น่าจะเป็นข้อเสนอที่ดี ในแง่ที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ดังนั้น กลไกในการพิจารณาแบบมีเงื่อนไข น่าจะเป็นแนวทางที่ทำให้สร้างความเชื่อใจซึ่งกันและกันได้มากขึ้น รวมถึงมีเงื่อนไขที่ทำให้ยอมรับกันได้ ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นข้อเสนอที่ดีในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน" นายชัยธวัช กล่าว