พท.ต้อนรับเลขาฯ พรรคคอมมิวนิสต์มณฑลชิงไห่ เตรียมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว
“เพื่อไทย” ต้อนรับ “เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลชิงไห่” โอกาสเยือนประเทศไทย พร้อมย้ำมิตรภาพไทย-จีนกว่า 50 ปี เตรียมอัญเชิญ “พระเขี้ยวแก้ว” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ที่พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย, นายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นางสาววิภาณี ภูคําวงศ์ สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และนายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ นายเฉิน กัง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลชิงไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศไทย
นายชูศักดิ์ ย้ำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และจีน ทั้งความเชื่อมโยงด้านเชื้อชาติ และวัฒนธรรมอย่างแนบแน่น ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์ทางการทูตมากว่า 50 ปี จะเห็นได้จากการที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนถึง 54 ครั้ง และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ที่ฝ่ายจีน มอบให้กับชาวต่างประเทศ จากการสร้างคุณูปการสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนั้นประเทศไทย จะได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง มาประดิษฐาน ณ ประเทศไทย ระหว่างเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นเวลา 73 วัน เนื่องในโอกาสสำคัญ 2 วาระ คือ การเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบ 50 ปี รวมถึงทุก ๆ รัฐบาลของไทย และทุกพรรคการเมือง ยังให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนในฐานะที่ทั้ง 2 ประเทศ เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน
นายชูศักดิ์ ระบุว่า รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญกับกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งกรอบความร่วมมือนี้ จะมีประสิทธิภาพในแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อม และสภาพภูมิอากาศในกลุ่มประเทศสมาชิก และประเทศจีน เป็นประเทศที่มีบทบาทในจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มณฑลชิงไห่ ซึ่งเป็นต้นทางของแม่น้ำโขง
ขณะที่นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย ระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างไทย กับมณฑลชิงไห่ มีมูลค่าราว 20 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศยังมีศักยภาพทางการค้าซึ่งกันและกันได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยที่ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาล (Halal Hub) ก็จะสามารถเพิ่มมิติความร่วมมือระหว่างมณฑลซิงไห่ สามารถเพิ่มพูนมูลค่าตัวเลขทางการค้าระหว่างกันได้มากยิ่งขึ้น
ด้านนางสาวสรัสนันท์ ระบุว่า ฝ่ายนิติบัญญัติของไทย ยึดมั่นแนวทางการทำงานภายใต้นโยบายจีนเดียว (One China Policy) และพร้อมร่วมงานกันอย่างสร้างสรรค์ (Constructive cooperation) รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และองค์ความรู้ผ่านกลไกรัฐสภา กับประเทศจีนอย่างแน่นแฟ้น เพื่อเดินหน้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และทุกพรรคการเมืองและทุกรัฐบาล ยังพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศจีน เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ
ขณะเดียวกัน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลชิงไห่ ยังมั่นใจว่า การเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ช่วยผลักดัน และกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งตนเองก็ได้รับมอบหมายภารกิจที่สำคัญจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน คือ การกระชับความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย พร้อมยังหวังว่า ในอนาคตไทย และมณฑลชิงไห่ จะมีศักยภาพในการร่วมมือทางการค้าระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลชิงไห่ ยังหวังว่า จะได้กระชับความร่วมมือด้านการรักษาระบบนิเวศ และปัญหาสภาพอากาศ รวมถึงปัญหาเรื่องน้ำกับรัฐบาลไทย พร้อมยังเห็นว่า กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ภายใต้การประสานงานของไทยนั้น จะเกิดความร่วมมือที่ดี เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม เกิดมิตรภาพในการร่วมกันแก้ไขปัญหาระบบนิเวศ และสภาพอากาศมากยิ่งขึ้น