แง้มร่าง นิรโทษฯ ’เพื่อไทย‘ เดิมพันเรตติ้ง-ไม่แตะ ม.112

แง้มร่าง นิรโทษฯ ’เพื่อไทย‘ เดิมพันเรตติ้ง-ไม่แตะ ม.112

ส่องไอเดียเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมยกร่างเนื้อหาไม่แตะต้องมาตรา 110 และ มาตรา 112 เพื่อบรรจุเข้าสู่สภาฯ ประกบกับร่าง พ.ร.บ.ที่คาไว้ในสภาฯ ก่อนหน้านี้ 4 ฉบับ

KEY

POINTS

  • ความเห็นในรายงานของ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมชุด “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ชี้ว่าคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 เป็น “คดีที่มีความอ่อนไหว” อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้
  • ฝ่ายกฎหมายพรรรคเพื่อไทยจ่อยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับไม่แตะ ม.112 และ ม.110 แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจาการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2548 จนมาถึงการชุมนุมทางการเมืองในช่วงหลังรัฐประหาร 2557
  • “พรรคเพื่อไทย” นำบทเรียนผิดพลาดในอดีตไม่ให้ซ้ำรอย รัฐบาลยิ่งลักษณ์  จนท้ายที่สุดถูกนำไปปลุกระดมต่อต้านนอกสภาฯ
  • ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคเพื่อไทยไม่แตะ ม.112 ถูกมองผลักเหยื่อที่ต้องคดี ม.112 ออกจากการนิรโทษกรรม ซึ่งเดิมพันกับคะแนนนิยมของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

มติที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เสียงส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2567 เห็นชอบให้ดำเนินการชงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยไม่แตะต้องมาตรา 110 และ มาตรา 112 เป็นท่าทีอันสอดคล้องกับแนวทางของพรรคเพื่อไทย ที่ยึดถือชูธงตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล หลังเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2566 ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ด้วยเช่นกัน

เป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า “พรรคเพื่อไทย” จะไม่นำเรื่องสถาบันมาอยู่ในวังวนแห่งความขัดแย้งทางการเมือง ตามแนวทางเดียวกับพรรคพันธมิตรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย

แม้ขณะนี้ สภาฯ ได้ค้างร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไว้แล้ว 4 ฉบับ เพื่อรอพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา สมัยหน้า ซึ่งจะเปิดในวันที่ 12 ธ.ค. 2567

โดย 2 ฉบับแรกของ “ภาคประชาชน“ กับ ”พรรคประชาชน” ครอบคลุมนิรโทษกรรมคดีอาญา มาตรา 112

อีก 2 ฉบับของพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคครูไทยเพื่อประชาชน โดยตั้งกรอบนิรโทษกรรม 20 ฐานความผิด ไม่ครอบคลุมคดีอาญา มาตรา 112

เช็กท่าทีพรรคเพื่อไทย แน่นอนว่าต้องเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาฯ เพื่อไม่ให้ “ตกขบวน” แนวร่วมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ติดหล่มมายาวนานตั้งแต่ยุคปลายของ “พรรคไทยรักไทย”

ถึงแม้ว่ามติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2567 ไม่เห็นชอบกับข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้วยคะแนนเสียง 270 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง

แต่ไล่เลียงดูเสียงของ สส.พรรคเพื่อไทย ที่เห็นด้วยกับข้อสังเกต นั้น พบว่า มีเสียงแตกไปในหลายแนวทาง ส่วนใหญ่ 115 เสียงลงมติ “ไม่เห็นด้วย” กับการส่งข้อสังเกตไปยัง ครม.

 11 เสียง “เห็นด้วย” ส่วนอีก4เสียง “งดออกเสียง” และอีก12เสียงไม่ลงคะแนน

สส.พรรคเพื่อไทยที่โหวตสวนมติพรรค ล้วนเป็นสายที่เคลื่อนไหวกับกลุ่มเสื้อแดง สส.บางคนโหวตสวนเพราะ ยึดหลักการแนวทางประชาธิปไตย สส.บางส่วนยังนั่งเป็น กมธ.ด้วย จึงไม่สามารถโหวตสวนคว่ำรายงาน กมธ.ที่ตัวเองเป็น กมธ.ได้

สำหรับข้อสังเกตของรายงาน กมธ. ที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี, สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้รับทราบหรือพิจารณาปฏิบัติ 

โดยสรุป ให้ ครม. พิจารณารายงานของ กมธ. และเร่งตรากฎหมายนิรโทษกรรมโดยเร็ว และเสนอต่อองค์กรในกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ในระหว่างที่ยังไม่มีการนิรโทษกรรม ให้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีที่ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ หรือชะลอการฟ้องคดีไว้ รวมทั้งให้ศาลพิจารณาการให้ประกันตัวระหว่างพิจารณา

แง้มร่าง นิรโทษฯ ’เพื่อไทย‘ เดิมพันเรตติ้ง-ไม่แตะ ม.112

ด้าน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานข้อมูลผู้ถูกดำเนินคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2563 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและการชุมนุมทางการเมืองในข้อหาตามมาตรา 112 แล้วอย่างน้อย 275 คน ใน 307 คดี

ขณะที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ขานรับกับการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ไม่แตะมาตรา 112

“แน่นอนต้องไม่แตะมาตรา 112 เพราะเป็นสิ่งที่เราย้ำมาตลอด ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลเราเน้นย้ำเรื่องนี้ ทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาลตกลงว่าจะไม่มีการแตะหมวด 1 และหมวด 2 อันนี้ชัดเจน” แพทองธาร ย้ำชัด

สอดคล้องกับความเห็นในรายงานของ กมธ. ชุด “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ชี้ว่าคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 เป็น “คดีที่มีความอ่อนไหว” อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ และไม่ได้ชี้ว่าควรอยู่ในกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่

กระทั่งข้อสังเกต ใน กมธ.ไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ เพราะไม่ต้องการให้มีผูกพันต่อรัฐบาล

ขณะที่ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า มติของพรรคเพื่อไทยเป็นความเห็น สส.ส่วน ใหญ่เท่านั้น แต่คงต้องไปหารือกันในคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยอีก เพราะยังมีขั้นตอนอีกมาก

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากพรรคเพื่อไทย แจ้งถึงแนวโน้มเนื้อหาสาระสำคัญของยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ “พรรคเพื่อไทย” ฉบับไม่แตะต้อง "มาตรา112 และมาตรา110" นั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะยกร่างสาระสำคัญ คือ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจาการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปลายปี 2548 จนมาถึงการชุมนุมทางการเมืองในช่วงหลังรัฐประหาร 2557

โดยเน้นนิรโทษกรรม เหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งทางการการเมืองที่เป็นคดีหลักจากการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีที่ห้ามชุมนุมทางการเมือง และคดีรองคือการกระทำผิดที่ละเมิดกฎหมายจราจร และความสะอาดเรียบร้อย ซึ่งพบว่า มีการฟ้องคดีรองเป็นจำนวนกว่า หมื่นคดีในคดีเล็กๆ

สาระสำคัญจะเน้นนิรโทษกรรม การกระทำความผิดที่เป็นเรื่องแรงจูงใจทางการเมือง แต่ตัดประเด็นล่อแหลม คือมาตรา 110 และมาตรา 112 ออกไป

แน่นอนเมื่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคเพื่อไทย เดินหน้าเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ ประกบกับอีก 4 ฉบับที่คาไว้ก่อนหน้านี้

ก็พอคาดเดาได้ว่า แนวทางการโหวตในสภาฯ คาดว่าจะให้โหวตไล่เรียงทีละฉบับ ทั้ง 5 ร่าง เมื่อนับด้วยเสียงโหวตที่รัฐบาลมีมากกว่าพรรคฝ่ายค้าน

ร่างกฎหมายฉบับพรรคประชาชนและฉบับภาคประชาชนที่นิรโทษกรรม ครอบคลุมมาตรา 112 น่าจะถูกตีตกโหวตคว่ำกลางสภาฯ ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ

แง้มร่าง นิรโทษฯ ’เพื่อไทย‘ เดิมพันเรตติ้ง-ไม่แตะ ม.112

อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยผ่านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง มานับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่เป็นการนิรโทษกรรมให้กับคณะรัฐประหาร รองมาเป็นการนิรโทษกรรมให้กับบรรดา นักเรียน นิสิต นักศึกษาในช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519

โดยฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มองถึงการนิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับแกนนำ รวมถึงตัว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ให้ดูที่สาระของคำนิยามในการนิรโทษกรรม และการตีความของการนิรโทษฯ

ทั้งนี้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในอดีตเคยเป็นปมปัญหาสำคัญที่เคยถูกมวลชนนอกสภาฯ กปปส. ที่นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำ กปปส.ขณะนั้นจุดชนวนต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปลายปี 2556 จนนำไปสู่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ปี 2557

แง้มร่าง นิรโทษฯ ’เพื่อไทย‘ เดิมพันเรตติ้ง-ไม่แตะ ม.112

บทเรียนนี้ “พรรคเพื่อไทย” ย่อมต้องนำมาป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำรอย รัฐบาลน้องสาว จนท้ายที่สุดถูกนำไปปลุกระดมต่อต้านนอกสภาฯ

ทำให้เนื้อหาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรคเพื่อไทยจึงต้องออกมาเพื่อประคับประคองให้รัฐบาลปัจจุบัน เดินหน้าไปอย่างราบรื่นที่สุด ในจังหวะที่กำลังจับมือกับพรรคอนุรักษนิยม เพื่อให้ไร้ขวากหนามน้อยที่สุดที่จะมาโค่นล้มรัฐบาลแพทองธารชินวัตร

และแน่นอนการผลักภาระเหยื่อที่ถูกคดีมาตรา 112 ออกจากการนิรโทษกรรมทางการเมือง ก็ย่อมส่งผลต่อกระแสความนิยมทางการเมืองของ “พรรคเพื่อไทย” ด้วยเช่นกัน