ปชน.ปัดฮั้วเพื่อไทย! 'พริษฐ์' ลั่นคนละขั้ว ตรวจสอบเต็มที่ รอดูอีก 2 ปีครึ่ง
'ไอติม พริษฐ์' ยัน ปชน.ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' ลั่นตอนนี้คนละขั้ว ตรวจสอบไม่มีอ่อนข้อ อีก 2 ปีครึ่งให้รอดู เมินผลโพลฝ่ายค้านคะแนนตกต่ำ เปรียบเหมือนฟุตบอลให้ดูตอนจบ 90 นาที เผย 'นายกฯ-ประธานสภาฯ-ประธานศาล รธน.' ยังไม่ตอบรับหารือ ชี้ตรวจแปรสำคัญร่าง รธน.ใหม่
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2567 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยถึงผลงาน 1 ปีของฝ่ายค้าน ว่า พรรคประชาชนจะเน้นไปที่การพยายามจะเพิ่มการมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด หากย้อนกลับไปจะเห็นว่ามี สส.ที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่องชัดเจนอยู่แล้ว ในการผลักดันประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องหลายรูปแบบ เพื่อสร้างความเข้าใจว่ากฎหมายต่างๆ เหล่า กระทบต่อชีวิตประชาชนอย่างไร เน้นการรับฟังความเห็น และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนประเด็น
เมื่อถามว่า หากให้ประเมินผลงานตัวเองที่ผ่านมา เต็มสิบให้เท่าไหร่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า คนที่ให้คะแนนฝ่ายการเมืองได้ดีที่สุด คงไม่ใช่พวกเราเอง แต่คือประชาชน
เมื่อถามอีกว่า ภาพจำของกฎหมายที่ผ่านสภา มักจะเป็นกฎหมายที่พรรครัฐบาลเห็นด้วย จะสามารถนับว่าเป็นผลงานของฝ่ายค้านได้อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าเมื่อเราเป็นฝ่ายค้าน เรามีเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถ้าสภาจะเห็นชอบ ต้องมี สส.ฝ่ายรัฐบาลเห็นชอบด้วย ยืนยันว่าไม่ได้มีความกังวลใจ ถ้าภาพจำจะเป็นผลงานของรัฐบาล เพราะหากย้อนไปตั้งแต่การก่อตั้งพรรคประชาชน รวมถึงพรรคก้าวไกล ที่ตั้งใจจะสร้างความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น หากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในช่วงสมัยที่พรรคประชาชนไม่ได้เป็นรัฐบาล เราก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศ ที่แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคประชาชนเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนก็สามารถพยายามผลักดันและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปก่อนได้
ส่วนผลโพลที่คะแนนฝ่ายค้านลดลง มองว่ามีนัยสำคัญอย่างไร และจะมีการปรับเกมอย่างไรบ้างนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ผลโพลทุกสำนักเป็นข้อมูลประกอบที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของทุกฝ่ายอยู่แล้ว แต่ต้องดูในรายละเอียดว่าเป็นผลโพลของสำนักไหน มีวิธีการถามคำถามอย่างไร และถามกับใคร ทั้งหมดก็เป็นประโยชน์
“ท้ายที่สุด ผลงานของเรา ประชาชนจะพิพากษาอย่างไร ก็จะจบที่การเลือกตั้งครั้งถัดไป หากเปรียบเหมือนเกมฟุตบอล ก็เป็นข้อมูลที่อาจจะช่วยให้เราสามารถปรับเกมระหว่างการแข่งขันได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือคะแนนตอนจบเกมการแข่งขัน 90 นาที” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในการเมืองก่อนปิดสภา พรรคประชาชนอาจถูกมองว่าเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ค้านไม่จริง เนื่องจากเคยเป็นพันธมิตรกับพรรคเพื่อไทยมาก่อน ทำให้การตรวจสอบไม่เต็มที่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตลอด 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้านใช้กลไกของสภาอย่างเต็มที่ ในการตรวจสอบรัฐบาลทุกเรื่องที่สังคมคาใจ ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงที่คงปฏิเสธไม่ได้ คือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเคยอยู่ในซีกพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน แต่ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลในปี 66 เป็นต้นมา เมื่ออยู่คนละขั้วกัน เราก็ทำงานเต็มที่ในการตรวจสอบ ไม่มีฮั้ว ไม่มีการอ่อนข้อแน่นอน เชื่อว่า ในอีก 2 ปีครึ่งข้างหน้า จะยิ่งตอกย้ำ และยืนยันภาพดังกล่าว
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยตอบรับเรื่องการทำประชามติ 2 ครั้งนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องจำนวนของการทำประชามติ พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันมานานแล้ว ในเชิงความจำเป็นของกฎหมายว่า 2 ครั้งพอ เพียงแต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล พยายามจะใช้การยื่นเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขยายความให้เกิดความชัดเจนขึ้น ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 หมายถึงจำนวนการทำประชามติทั้งหมดกี่ครั้ง ซึ่งเมื่อพอศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่องดังกล่าวไปวินิจฉัย จึงทำให้ประธานสภา อาจวินิจฉัยหรือตีความเรื่องดังกล่าว ต่างจากพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย จนไปมองว่า ต้องมีการทำประชามติ 3 ครั้ง ส่งผลให้ไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลที่ยื่นไปเมื่อต้นปี ดังนั้น ตนมองว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนสอดคล้องกันมาตลอด แต่มาถึงวันนี้ เราก็ต้องมาขบคิดกันว่าจะทำอย่างไร ให้แผนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่อาศัยการทำประชามติ 3 ครั้ง เกิดขึ้นได้จริง
โฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า ยังมี 3 ล็อก หรือ 3 บุคคลสำคัญ ที่ต้องเข้าไปหารือ คือ
1.ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้บรรจุร่างดังกล่าวลงระเบียบวาระ
2.นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล เพื่อทำให้สมาชิกรัฐสภาลงมติเห็นชอบ โดยไม่นำคำวินิจฉัย 4/2564 มาเป็นข้ออ้างในการลงมติไม่เห็นชอบ
3.ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ขยายความให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน และเดินตามแนวทางดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้มีการส่งหนังสือ เพื่อขอเข้าพบกับ 3 บุคคลดังกล่าวแล้ว เนื่องจากวาระการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ทันกับการเลือกตั้งครั้งถัดไป ไม่เพียงแต่เป็นวาระที่ทั้งพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน เคยออกมาประกาศว่าเห็นตรงกัน แต่ยังเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้สัญญาไว้กับประชาชนเช่นกัน เราก็อยากจะเห็นเป้าหมายดังกล่าวสำเร็จ
เมื่อถามถึงการทำหนังสือที่ส่งไป มีการตอบรับมาแล้วหรือยัง หรือมีการชี้แจงอย่างไรบ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ยังไม่มีการตอบรับกลับมา เนื่องจากเราส่งไปเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่เมื่อติดตามการให้สัมภาษณ์ของบุคคลในพรรคเพื่อไทยเรื่องนี้ ก็ฟังดูเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่า ทางพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำพรรครัฐบาล น่าจะพร้อมหารือ หาทางออกเรื่องนี้ร่วมกับเรา รอคำตอบจากทั้ง 3 ท่าน
เมื่อถามย้ำถึงความมั่นใจในการทำประชามติ 2 ครั้ง ไม่ถูกหยิบยกไปอ้างในการร้องศาลภายหลัง โฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า การพบ 3 บุคคลข้างต้น จึงมีความสำคัญ หรือเป็นตัวแปรสำคัญมาก ในการที่เราจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จทันก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป