‘ชูศักดิ์’ ย้ำ ประชามติ เสียงข้างมากธรรมดา ไม่ควรมีเกินกึ่งหนึ่งผู้มีสิทธิ
“ชูศักดิ์” ชี้ ประชามติ แก้รธน. ไม่ควรมีเกณฑ์ชั้นแรก ยึดเสียงเกินกึ่งหนึ่งผู้มีสิทธิ เหตุ คนไม่มาใช้สิทธิ-ไม่ลงคะแนน จะถูกรวมไม่เห็นชอบ แนะ ควรใช้เสียงข้างมากธรรมดาเท่านั้น ยัน พยายามทำดีที่สุด เสร็จรัฐบาลนี้หรือไม่ ค่อยว่ากัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ เสนอให้ทำประชามติชั้นครึ่งในการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ตนไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะสองชั้นหรือชั้นครึ่ง เรื่องใหญ่อยู่ที่ชั้นแรกที่ระบุว่าเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะถ้าใช้วิธีเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิจะเท่ากับว่าคนที่ไม่มาใช้สิทธิหรือไม่ประสงค์จะลงคะแนนถูกนับไปด้วยว่าเป็นคนไม่เห็นชอบ เท่ากับค้านการทำประชามติ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ดังนั้น ชั้นแรกถือว่าสำคัญที่สุด เราถึงบอกว่ามันไม่ควรมี ควรเอาเสียงข้างมากธรรมดาเท่านั้น เป็นเรื่องที่คณะทำงานและพรรคเพื่อไทยตอนที่เราทำกฎหมายประชามติเราจึงยืนยันจุดนี้ แล้วสภาผู้แทนราษฎรก็ยืนยันจุดนี้แบบเอกฉันท์ว่าให้ใช้เสียงข้างมากธรรมดา ดังนั้น ที่นายนิกรพูดว่าชั้นครึ่งนั้น ก็ไม่ทราบ แต่เห็นว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน ส่วนตัวให้ความสำคัญกับชั้นแรกมากกว่า ทั้งนี้ ตนยังไม่รู้ว่ามันจะลงเอยอย่างไร เพราะถ้าไม่ผ่านชั้นแรกก็ถือว่าจบไปแล้ว ชั้นที่สองไม่ต้องมาคิดอะไรกันแล้ว จะชั้นครึ่งหรือครึ่งชั้นถ้าไม่ผ่านชั้นแรกก็จบ จึงให้ความสำคัญกับชั้นแรกมากกว่า
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่น เพราะเรามีนโยบายไปแล้วว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราอยากจะผลักดันเต็มที่ แต่จะผลักดันได้มากน้อยแค่ไหนค่อยว่ากันอีกที ส่วนจะทันในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่นั้น จะพยายามทำให้ดีที่สุด ทันหรือไม่ทันอย่างไรค่อยว่ากันอีกที แต่พยายาม อย่างน้อยที่สุดได้แสดงความตั้งใจว่ารัฐบาลนี้ต้องการจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการ ส.ส.ร.