‘นายกฯ’ เปิดหลักสูตรวปอ. รุ่น 67 เน้นรับมือการเปลี่ยนแปลงโลก
"นายกฯ"เปิดหลักสูตรวปอ. รุ่น 67 เน้นย้ำรับมือการเปลี่ยนแปลงโลก ย้ำรัฐบาลมุ่งเศรษฐกิจดิจิทัล ดันไทยพ้นประเทศปานกลาง
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 8 พ.ย.ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 และกล่าวบรรยายหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมือง ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และผู้อำนวยการหลักสูตร เป็นต้น
โดยนายกฯ กล่าวเปิดหลักสูตรตอนหนึ่งว่า วันนี้ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสมาพบทุกท่านและได้มีโอกาสมากล่าวบนเวทีนี้ก็อย่างที่ทุกคนทราบโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆและที่สำคัญเทคโนโลยีเอไอต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น โลกวันนี้กับ 20 ที่แล้วเป็นคนคนละใบ หลังจากนี้การเปลี่ยนแปลงจะยิ่งเร็วขึ้น เราต้องเตรียมพร้อม รับมือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมที่จะรุนแรงยิ่งขึ้น ชัดเจนว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงมากยิ่งขึ้นและปัญหาทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในทุกระดับ เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เราเตรียมในเรื่องของการรับมือกับปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ดิฉันไปเจอกับผู้นำหลายประเทศได้พูดคุยกันเห็นปัญหาที่เจอคล้ายกันฉะนั้นความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทุกประเทศยินดีช่วยเหลือกัน เพื่อให้หลุดพ้นจากปัญหานี้
แน่นอนว่าวันนี้ที่ทุกท่านเข้ามาเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.)หรือ มินิวปอ.ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทุกท่านจะได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหลายหน่วยงานที่มาเจอกันในวันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ เพราะตัวดิฉันเองก่อนหน้านี้ทำงานอยู่เอกชนก็รู้เลยว่าตัวเองก็ต้องพึ่งพารัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็มั่นใจว่าเราจะทำนโยบายหลายอย่างสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีเอกชน เพราะฉะนั้นทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญและทุกท่านในที่นี้รับรองได้ว่าต้องเป็นคนสำคัญในการวางแผนนโยบายหรือแผนพัฒนาในองค์กรของท่าน
”หลักสูตรนี้ดิฉันคิดว่าจะสามารถให้อะไรหลายๆอย่างได้ ทุกครั้งที่มีการจับกลุ่มกันก็อยากจะขอให้ทุกคนช่วยกันเข้างานกลุ่มเพื่อให้เกิดความเข้าใจวันนี้ขอมาแชร์ในเรื่องที่รัฐบาลทำอยู่ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอยู่ในรุ่นนี้พอจบออกไปก็ยังคบหากันอยู่ และเป็นสิ่งที่อีกสังคมหนึ่งดีใจที่ได้มาเจอ ตอนที่ไม่ใช่เป็นนักเรียนแล้ว เพราะเป็นรุ่นที่โตแล้ว รู้สึกว่าได้มาเจอกลุ่มใหม่เพื่อนใหม่ๆ ก็รู้สึกว่าทำให้มีประสบการณ์เยอะขึ้นเปิดโลกให้กว้างขึ้น ต้องขอให้ทุกคนโชคดีหลังจากจบคอร์สกันไปจะได้คบกันต่อไปนานๆ เราจะได้รู้จักกันทุกภาคส่วน ตอนที่ดิฉันเข้ามาเรียนวปอ.มินิ รู้สึกว่าข้าราชการทุกท่านมีความเป๊ะมากได้รู้จักในมุมใหม่ๆขอให้ทุกคนเรียนเตรียมพร้อมพัฒนาประเทศของเรา“นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สำหรับประเทศไทยเองรัฐบาลก็ได้ขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อที่จะรองรับภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของภัยในเรื่องของความมั่นคงอย่าง เช่น ประเด็นความขัดแย้งในสหรัฐอเมริกากับจีนทที่จะส่งผลกระทบในหลายมิติทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ และเรื่องของการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งหลายท่านอาจจะคิดว่าจีนจะเอาสินค้าเข้ามาขายทำให้คนไทยไม่มีที่ยืน ไม่มีตลาด สำหรับการขายสินค้า แต่ว่าความจริงแล้ว จีนเองก็ยังต้องการสินค้าเกษตรจากประเทศไทยอย่างมาก ฉะนั้นเรายังมีทางออกของเรา ซึ่งรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกและพัฒนาในเรื่องของเกษตรให้แข็งแรงพร้อมที่จะส่งออกให้กับจีน ซึ่งทางออกของเศรษฐกิจไทยเคยได้ไปพูดคุยกับกระทรวงการคลังและหลายประเทศเพื่อนบ้านว่าความจริงแล้วการปรับโครงสร้างหนี้หรือช่วยในเรื่องของหนี้ ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญ คือ การหารายได้ใหม่ให้กับประเทศ รัฐบาลจึงสนับสนุนในเรื่องของซอฟพาวเวอร์ฃเกิดการจ้างงานมและสร้างอาชีพใหม่ๆ เพื่อให้เราหลุดกับดักรายปานกลางเป็นสู่รายได้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และอีกอย่างที่รัฐบาลจะผลักดันต่อคือการเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิติทัลให้เป็น 30% ของจีดีพีในปี 2573