22 พ.ย. ชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ ครอบงำพรรค - อสส. ยื่นตอบความคืบหน้าคดีศาล รธน.แล้ว

22 พ.ย. ชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ ครอบงำพรรค - อสส. ยื่นตอบความคืบหน้าคดีศาล รธน.แล้ว

22 พ.ย.67 ชี้ชะตา ‘ทักษิณ’ ครอบงำพรรค? อสส.ยื่นตอบความคืบหน้าคดี ทักษิณ - เพื่อไทย ล้มล้างฯ ต่อ รธน.เเล้ว เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 ที่ผ่านมา

รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด ความคืบหน้ากรณี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า "นายทักษิณ ชินวัตร" (ผู้ถูกร้องที่ 1) และ พรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด 

โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย.67 ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ เป็น อสส.ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งทราบเเต่เพียงว่าเป็นรายละเอียดในการสอบถ้อยคำ ทั้งทางฝั่งผู้ร้อง  และผู้ถูกร้อง โดยในส่วนผู้ถูกร้องทราบว่าไม่ได้มีการสอบถ้อยคำนายทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่ทางอัยการสูงสุดได้ทำความเห็นส่งไปด้วยหรือไม่ว่า เรื่องนี้ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือควรสั่งยุติเรื่องนั้น รายละเอียดส่วนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการส่งบันทึกสอบถ้อยคำผู้ร้อง และผู้ถูกร้องไปด้วยหรือไม่

แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ภายหลัง อสส.ได้ทำหนังสือส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เดิมศาล รธน.จะหยิบยกคำร้องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 พ.ย.2567 ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง แต่เนื่องจาก ตุลาการศาล รธน.ติดภารกิจราชการต่างประเทศ รวมถึงการประชุมทุกวันพุธในวันที่ 20 พ.ย.67 ตุลาการมีภารกิจราชการในประเทศ ดังนั้น จึงมีความเห็นพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าว ในวันที่ 22 พ.ย.67 

ด้าน นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ในฐานะผู้ร้อง เปิดเผยกับเนชั่นทีวี ว่า เพิ่งทราบจากข่าวเช่นกันว่า อสส. ได้ส่งบันทึกชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องชี้แจงมายังตน 
 

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้คณะทำงานพิจารณากรณีมีผู้ขอให้ อสส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิ และเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 49 ได้มีหนังสือเชิญนายธีรยุทธ ผู้ร้อง และนายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเพื่อทราบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาของ อสส.

รายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า นายธีรยุทธ ผู้ร้อง ได้เดินทางไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อคณะทำงานของ อสส.เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2567 ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ส่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2567 แต่ไม่ปรากฏรายงานข่าวว่า นายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 ไปให้ถ้อยคำต่อ อสส.แต่อย่างใด

รายงานข่าวว่า ในคำร้องของนายธีรยุทธต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ว่า ได้ยื่นคำร้องต่อ อสส. ขอให้ อสส.ส่งคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 และครบกำหนด 15 วัน เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อสส.คนปัจจุบันในขณะนั้นที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2567 กับ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รอง อสส.ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเป็น อสส.คนใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.2567

ทั้งนี้ คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้นายไพรัชเป็น อสส. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2567 และที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีมติรับรองในวันที่ 3 ก.ย.2567 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ เป็น อสส.เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์