ดับฝัน ‘แดง’ จำแลง ‘นายใหญ่’ ไม่ไปเมืองช้าง
วันเสาร์ที่ 23 พ.ย.2567 จะเป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ ที่มีผู้สมัคร 5 คน แต่โค้งสุดท้ายสภากาแฟเมืองช้าง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใครชนะก็หนีไม่พ้นคนในตระกูล “มุ่งเจริญพร” ค่ายสีน้ำเงิน
KEY
POINTS
- มีข่าว ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปเมืองช้าง ช่วงวันที่ 19-20 พ.ย.2567 นัยว่า นายใหญ่จะไปช่วยเบอร์ 3 “นัทธมน ศิริวัฒนวานิช” อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ หาเสียงชิงเก้าอี้นายก อบจ.สุรินทร์ พลันที่มีข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป คนเสื้อแดงเมืองช้างก็งงเป็นไก่ตาแตก เนื่องจาก “ซ้อน้อง” นัทธมน ศิริวัฒนวานิช ก็เป็นคนในเครือข่ายสีน้ำเงิน
- ตัวเต็งศึกเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ จึงเหลือแค่ 2 คนคือ “เฮียพร”พรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ และ “ซ้อหมวย” ธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์
- มาถึงวันนี้ คนเมืองช้างส่วนใหญ่น่าจะตัดสินใจแล้วว่า จะเลือก “เฮียพร” หรือ “ซ้อหมวย” ซึ่งไม่ว่าใครชนะ ตระกูล “มุ่งเจริญพร” และครูใหญ่บุรีรัมย์ ก็ยึดครอง อบจ.เมืองช้างอีกสมัย
วันเสาร์ที่ 23 พ.ย.2567 จะเป็นวันเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ ที่มีผู้สมัคร 5 คน แต่โค้งสุดท้ายสภากาแฟเมืองช้าง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใครชนะก็หนีไม่พ้นคนในตระกูล “มุ่งเจริญพร” ค่ายสีน้ำเงิน
ก่อนหน้านี้ มีข่าว ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปเมืองช้าง ช่วงวันที่ 19-20 พ.ย.2567 นัยว่า นายใหญ่จะไปช่วยเบอร์ 3 “นัทธมน ศิริวัฒนวานิช” อดีตรองนายก อบจ.สุรินทร์ หาเสียงชิงเก้าอี้นายก อบจ.สุรินทร์
พลันที่มีข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป คนเสื้อแดงเมืองช้างก็งง เป็นไก่ตาแตก เนื่องจาก “ซ้อน้อง” นัทธมน ศิริวัฒนวานิช ก็เป็นคนในเครือข่ายสีน้ำเงิน
“ซ้อน้อง” มีชื่อเดิมว่า นัฐมล สมบูรณ์เทอดธนา อดีต สส.สุรินทร์ ปี 2544 และเป็นภรรยาของ ณัฐวัฒน์ สมบูรณ์เทอดธนา นายก อบต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์
การเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ สมัยที่แล้ว บ้านใหญ่สังขะ ตระกูลสมบูรณ์เทอดธนา ก็สนับสนุน “เฮียพร” พรชัย มุ่งเจริญพร จึงทำให้ “ซ้อน้อง” ได้ตำแหน่งรองนายก อบจ.
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ เที่ยวนี้ “ซ้อน้อง” ได้รับการสนับสนุนจาก “จ่าประสิทธิ์เสื้อแดง” ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และเจ้าของโรงสีคนดังแห่ง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
หลายคนคงจำได้ วันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.2567 ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปเป็นประธานโครงการบรรพชาอุปสมบท เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
แม่งานในวันนั้นคือ “นายกเป๊ปซี่” โรจนินทร์ หิรัญโชคอนันต์ เจ้าของโรงสี ส.ชัยเจริญ และนายกเทศมนตรีตำบลกังแอน อ.ปราสาท โดยมีจ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ เป็นแกนหลักระดมคนเสื้อแดงมาต้อนรับนายใหญ่
ว่ากันว่า สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยหลายคน ไม่ค่อยพอใจเท่าไร ที่เห็น “นายกเป๊ปซี่” กลายเป็นคนสนิทนายใหญ่
รวมถึง สมบัติ ศรีสุรินทร์ และชูศักดิ์ แอกทอง ทั้งคู่เป็นอดีต สส.สุรินทร์ ค่ายสีแดง โซนชายแดน อ.ปราสาท อ.สังขะ อ.บัวเชด ก็ไม่สบายใจ ซึ่งพวกเขาคงไม่ต้องการให้ “นายกเป๊ปซี่” มาเป็นใหญ่ในโซนนี้
เมื่อครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ ออกมาโวยว่า เพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครนายก อบจ.สุรินทร์ แถมยังบอกว่า นัทธมน ศิริวัฒนวานิช ก็คือ คนของค่ายสีน้ำเงิน
ข่าวทักษิณจะไปหาเสียงนายก อบจ.ที่เมืองช้าง จึงเงียบหายไป และ “ซ้อน้อง” ก็เลิกสวมเสื้อแดงออกหาเสียง
ด้วยเหตุนี้ ตัวเต็งศึกเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ จึงเหลือแค่ 2 คนคือ “เฮียพร” พรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ และ “ซ้อหมวย” ธัญพร มุ่งเจริญพร อดีตประธานสภา อบจ.สุรินทร์
เวลานี้ ทั้ง “เฮียพร” และ “ซ้อหมวย” ออกหาเสียงหามรุ่งหามค่ำ ต่างหวังในชัยชนะ สู้กันแบบไม่มีออมมือ
ครูใหญ่เนวินก็ปวดหัว เพราะไม่อยากให้คนในบ้านใหญ่มุ่งเจริญพรแข่งกันเอง แต่ปมขัดแย้งมาจากเรื่อง “ส่วนตัว” ภายในตระกูลที่ต่างฝ่ายต่างยอมกันไม่ได้
60 ปีที่แล้ว ตระกูลมุ่งเจริญพร ลงหลักปักฐานทำธุรกิจโรงโม่หินที่ ต.นาบัว อ.เมืองสุรินทร์ ในนาม หจก.โรงงานโม่บดหินมุ่งเจริญ ก่อนจะขยับขยายมาทำโรงสีไฟมุ่งเจริญพร และโรงไฟฟ้ามุ่งเจริญกรีนเพาเวอร์
บิดาของ ปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย เป็นพี่ชายคนโตของตระกูลนี้ โดยมีน้องชายอีก 3 คนที่เล่นการเมืองคือ พรชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ , ธงชัย มุ่งเจริญพร อดีตนายก อบจ.สุรินทร์ และชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย
ดังนั้น สส.ปกรณ์ จึงมีศักดิ์เป็นหลานเฮียพรชัย เฮียธงชัย และเฮียชูชัย แต่บนถนนการเมือง สส.ปกรณ์และเฮียพรชัย เลือกข้างครูใหญ่เนวิน
ส่วนเฮียธงชัย และเฮียชูชัย เลือกอยู่ฝ่ายนายใหญ่ทักษิณ สมัยเสื้อแดงแรงฤทธิ์ เฮียชูชัยเป็นแกนนำ นปช.สุรินทร์ จนได้ฉายา “ไอ้หนุ่มเสื้อแดง”
พรชัย มุ่งเจริญพร ลงสมัคร สส.สุรินทร์ 2 ครั้งคือ ปี 2550 ในสีเสื้อมัชฌิมาธิปไตย และปี 2562 สวมเสื้อภูมิใจไทย ก็สอบตก
ปี 2563 ปกรณ์ และกลุ่มเพื่อนเนวิน ในนามกลุ่มสุรินทร์รวมใจ หนุนพรชัย มุ่งเจริญพร ลงสมัครนายก อบจ.สุรินทร์
เหนืออื่นใด “เสี่ยติ่ง” กิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ พ่อตาของเฮียพรชัย ขอวางมือไม่ลงสนามนายก อบจ.สุรินทร์ จึงส่งต่อให้ลูกเขย-เฮียพรชัย
ผลปรากฏว่า พรชัยได้ 205,458 คะแนน คว้าตำแหน่งนายก อบจ.สุรินทร์ ทิ้งห่างอันดับ 2 เจ้าจอม เดียวเจริญโสภา ได้ 35,101 คะแนน และอันดับ 3 มานพ แสงดำ คณะก้าวหน้า ได้ 33,925 คะแนน
เมื่อ “เฮียพร” พรชัย มุ่งเจริญพร นั่งนายก อบจ.สุรินทร์ ก็ให้หลานสะใภ้ “ซ้อหมวย” ธัญพร มุ่งเจริญพร ภรรยา สส.ปกรณ์ นั่งประธานสภา อบจ.สุรินทร์
วันที่ 26 ก.ย.2567 พรชัยเข้าพบ ผวจ.สุรินทร์ แจ้งการลาออกจากนายก อบจ.สุรินทร์ ก่อนครบวาระ ตามมาด้วยธัญพร ก็ยื่นลาออกจากการเป็น ส.อบจ.สุรินทร์ เพื่อเตรียมตัวลงสมัครนายก อบจ.สุรินทร์
มิเพียงครูใหญ่เนวิน จะกุมขมับกับศึกในตระกูลมุ่งเจริญพร บรรดา สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย 5 คน ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะช่วยฝั่งไหน
มาถึงวันนี้ คนเมืองช้างส่วนใหญ่น่าจะตัดสินใจแล้วว่า จะเลือก “เฮียพร” หรือ “ซ้อหมวย” ซึ่งไม่ว่าใครชนะ ตระกูล “มุ่งเจริญพร” และครูใหญ่บุรีรัมย์ ก็ยึดครอง อบจ.เมืองช้างอีกสมัย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์