ผ่า 4 ธุรกิจเครือ ‘ชิดชอบ’ ถือครอง-เช่า ‘เขากระโดง’

ผ่า 4 ธุรกิจเครือ ‘ชิดชอบ’ ถือครอง-เช่า ‘เขากระโดง’

ทั้งหมดคือธุรกิจเครือข่ายของคนตระกูล“ชิดชอบ” ที่ปรากฏชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับ“ที่ดินเขากระโดง” ที่แม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่การเพิกถอนสิทธิที่ดินก็ยังไม่เกิดขึ้น

KEY

POINTS

  • ผ่าขุมข่าย 4 ธุรกิจเครือคนตระกูล ‘ชิดชอบ’ 
  • ถือครอง-เช่าที่ดิน ‘เขากระโดง’ ทำโรงโม่หิน สนามฟุตบอล โรงแรม
  • ผ่านมาหลายสิบปี หน่วยงานรัฐยังไม่เพิกถอนสิทธิ
  • เปิดศึกข้ามกระทรวง กรมที่ดินยันได้มาถูกต้อง - รฟท.ยกคำพิพากษาศาลฎีกาสู้เป็นของรถไฟ
  • เริ่มนับหนึ่งกระบวนการให้ศาลชี้ขาดอีกรอบ

ข้อพิพาท “ที่ดินเขากระโดง” ผ่านมาหลายสิบปี ยังคงไม่ได้ข้อสรุป แม้ว่าศาลฎีกา จะมีคำพิพากษาออกมาแล้วหลายสำนวน ข้อเท็จจริงระบุชัดตรงกันว่า พื้นที่ตามข้อพิพาทดังกล่าว จะเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ตาม เนื่องจากประเด็นนี้ มติคณะกรรมการสอบสวน ตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1195-1196/2566 มีมติไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของการ รฟท.บริเวณดังกล่าว

ร้อนถึง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ในฐานะผู้กำกับดูแล รฟท. ทำหนังสือ “อุทธรณ์” คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอน “ที่ดินเขากระโดง” ของอธิบดีกรมที่ดินดังกล่าว นอกจากนี้อีกทางหนึ่งได้ไปฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อหาข้อยุติในเงื่อนปมเหล่านี้ด้วย

สำหรับที่ดิน “เขากระโดง” ตามข้อพิพาทนั้น มีประมาณ 5,083 ไร่ นอกเหนือจากมีชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือน อพยพเข้ามาอาศัยตั้งถิ่นฐานบริเวณดังกล่าวมาหลายสิบปีแล้ว ยังปรากฏชื่อของ “นักการเมืองระดับชาติ” เข้าไปพัวพันด้วย

โดยข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาของศาล ระบุว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่ ที่อยู่ในชื่อคนตระกูล “ชิดชอบ” โดยในจำนวนนี้มีการถือครองในชื่อคน และนิติบุคคล รวมถึงปล่อยเช่าให้นิติบุคคล

โดยนิติบุคคลที่เข้ามาถือครองกรรมสิทธิ์ หรือเช่าที่ดินดังกล่าวต่อจากคน “ตระกูลชิดชอบ” มี 4 บริษัท ได้แก่

บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด ถือครอง 5 แปลง ในจำนวนนี้มี 1 แปลงเป็นที่ตั้งของบ้านพักอาศัย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” น้องชาย “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่ “ค่ายน้ำเงิน”

บริษัทแห่งนี้ ทำธุรกิจ “โรงโม่หิน” ถือเป็นธุรกิจหลักของคนตระกูลชิดชอบ ดำเนินการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุค “ชัย ชิดชอบ” อดีตนักการเมืองใหญ่ “เมืองเซาะกราว” อดีตประธานรัฐสภา อดีต สส.หลายสมัย ผู้เป็นบิดา

อย่างไรก็ดีปัจจุบันไม่มีชื่อคนตระกูล “ชิดชอบ” เข้าไปถือหุ้นแล้ว มีแค่ “เอกราช ชิดชอบ” เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทเท่านั้น โดยจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อ 29 พ.ค. 2534 ทุนปัจจุบัน 15 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 30/2 หมู่ที่ 4 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ วัตถุประสงค์ โรงโม่หิน กรรมการ 2 คน นายเอกราช ชิดชอบ นางสาวณัฐฐา เหมาะดี

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 นายคุณาวุฒิ กิจบุรินทร์ ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9967% ที่เหลือ นายเอดกริชฏา สุภานันท์ นายประวิชญ์ พรมสาขา ณ สกลนคร นายอรรถ อรรถยุติ นายสุรเดช เจริญยิ่ง นายเลอสรรพ์ อาจจำนงค์ ถือคนละ 0.0007%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 (ยังไม่พบข้อมูลปี 2565, 2566) มีสินทรัพย์รวม 263,992,733 บาท หนี้สินรวม 250,512,373 บาท มีรายได้รวม 146,651,176 บาท รายจ่ายรวม 145,877,550 บาท เสียภาษีเงินได้ 309,010 บาท กำไรสุทธิ 464,614 บาท

ผ่า 4 ธุรกิจเครือ ‘ชิดชอบ’ ถือครอง-เช่า ‘เขากระโดง’

บริษัท เค. มอเตอร์สปอร์ต จำกัด ถือครอง 2 แปลง บริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2556 ทุนปัจจุบัน 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 444/5 หมู่ที่ 15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ วัตถุประสงค์ จัดตั้งสนามสำหรับเล่นกีฬา จำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันกีฬา มีกรรมการ 2 คน นายเนวิน ชิดชอบ นางสาวชิดชนก ชิดชอบ (บุตรสาวนายเนวิน)

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 นางสาวชิดชนก ชิดชอบ ถือหุ้นใหญ่สุด 52% นายชนน์ชนก ชิดชอบ (บุตรชายนายเนวิน) ถือ 15% นายโชติชนก ชิดชอบ (บุตรชายนายเนวิน) ถือ 15% นายเนวิน ชิดชอบ ถือ 7.5% นางกรุณา ชิดชอบ อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์ อดีต สส.บุรีรัมย์ (ภริยานายเนวิน) ถือ 7.5% นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ถือ 2.5% นางแจ่มใส สุภา ถือ 0.5%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 2,441,837,451 บาท หนี้สินรวม 690,986,472 บาท รายได้รวม 280,476,597 บาท รายจ่ายรวม 156,866,015 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 11,817,683 บาท เสียภาษีเงินได้ 10,425,569 บาท กำไรสุทธิ 101,367,329 บาท

บริษัท เค 2009 ลิซ จำกัด เช่ามา 4 แปลง โดยเป็นที่ตั้งสนามฟุตบอลช้างอารีนา ทางเข้าสนามแข่งรถ และที่ตั้งตลาดนัด โดยบริษัทแห่งนี้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อ 23 เม.ย. 2552 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 444 หมู่ที่ 15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 

วัตถุประสงค์ ซื้อ ขาย ให้เช่า เช่าช่วง เช่าซื้ออาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน มี นางสาวชิดชนก ชิดชอบ บุตรสาวนายเนวิน เป็นกรรมการคนเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 21 มิ.ย. 2567 นายชนน์ชนก ชิดชอบ ถือหุ้นใหญ่สุด 51% นางแจ่มใส สุภา ถือ 25% นายเนวิน ชิดชอบ ถือ 14% นางสาวชิดชนก ชิดชอบ ถือ 10%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 240,960,795 บาท หนี้สินรวม 123,414,375 บาท รายได้รวม 56,259,444 บาท รายจ่ายรวม 42,097,134 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 21,292 บาท เสียภาษีเงินได้ 2,828,211 บาท กำไรสุทธิ 11,312,806 บาท

บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สปอร์ตโฮเต็ล จำกัด เช่าช่วงต่อจากบริษัท เค 2009 ลิซ จำกัด 1 แปลง เป็นที่ตั้งโรงแรม โดยบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สปอร์ตโฮเต็ล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2555 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 444 หมู่ที่ 15 ถนนบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ วัตถุประสงค์ ให้เช่าโรงแรม มีกรรมการ 2 คน นางสาวชิดชนก ชิดชอบ นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท เค 2009 ลิซ จำกัด (บริษัทของคนตระกูลชิดชอบ ผู้ให้เช่าช่วงที่ดินต่อ) ถือหุ้นใหญ่สุด 60% นางสาว ชิดชนก ชิดชอบ ถือ 30% นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ถือ 5% นายกิตติมา คงรุ่งเรือง ถือ 5%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 69,789,232 บาท หนี้สินรวม 103,246,429 บาท รายได้รวม 59,808,713 บาท รายจ่ายรวม 59,920,547 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 486,008 บาท ขาดทุนสุทธิ 597,841 บาท

ทั้งนี้ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สปอร์ตโฮเต็ล จำกัด เคยปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 11 สัญญา รวมวงเงินประมาณ 3.4 แสนบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการให้เช่าห้องจัดอบรม หรือห้องพักของโรงแรม เป็นต้น

ทั้งหมดคือธุรกิจเครือข่ายของคนตระกูล“ชิดชอบ” ที่ปรากฏชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับ“ที่ดินเขากระโดง” ที่แม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่การเพิกถอนสิทธิที่ดินก็ยังไม่เกิดขึ้น แต่กลับมีความเคลื่อนไหว ย้อนกลับไป “นับหนึ่ง” ให้หน่วยงานรัฐ-ศาลชี้ขาดอีกครั้ง