ปชน.ทวงสัญญารัฐบาล ดันแก้รธน. งัดความเห็นตุลาการ ยันประชามติ2ครั้งทำได้

ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร   ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ถึงการหารือกับประธานศาลรัฐธรรมนูญและประธานรัฐสภาเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ว่า ประเด็นที่มีการถกเถียงขณะนี้คือเรื่องของการจัดทำประชามติว่ากฎหมายรวมถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดว่าจะต้องทำ2ครั้งหรือ3ครั้ง

ถ้าย้อนไปต้นปี2567สมาชิกเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลพยายามริเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่2ครั้งโดยการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาในการเพิ่มหมวด15/1ให้มีส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญ แต่เวลานั้นคณะกรรมการประสานงานและให้ความเห็นต่อประธานสภาได้ให้ความเห็นต่อประธานสภาไม่ให้บรรจุร่าง โดยอ้างถึงคำวินิจฉัยที่รัฐธรรมนูญ4/2564 แต่เรามีข้อมูลใหม่ที่ได้นำเรียนต่อประธานสภาและทีมของประธานสภาในวันนี้ 2ประการ

ประการแรก ความเห็นส่วนบุคคลของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำวินิจฉัย4/2564 จะเห็นว่าเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า ทำประชามติ2ครั้งเพียงพอ

ส่วนข้อมูลที่สองคือผลประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการกับประธานศาลรัฐธรรมนูญครั้งที่แล้ว ทั้งนี้ได้ข้อสรุปว่าหากจะให้คณะกรรมการประสานงานวินิจฉัยใหม่ก็ต้องมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เพิ่มหมวด15/1เกี่ยวกับการมีสสร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้าสู่สภาอีกรอบหนึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการไปถามความเห็นต่อภาคประชาชนต่อไป
 

เมื่อถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญในขณะที่รัฐบาลเหลือเวลา2ปีกว่านั้น จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าสามารถใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ นายพริษฐ์  กล่าวว่ารัฐบาลเคยสัญญาไว้กับประชาชนว่าจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งครั้งถัดไป

ถ้าย้อนไปตั้งแต่ก่อนที่พรรคเพื่อไทยฉีกเอ็มโอยูกับพรรคก้าวไกลหลังจัดตังรัฐบาล พรรคเพื่อไทยยังระบุอีกว่าจะมีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง ก่อนมีการยุบสภาเพื่อคึนอำนาจให้ประชาชนเสียด้วยซ้ำ

ฉะนั้นไม่ว่าจะมีการตีความจากเจตนารมณ์หรือนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ก็เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลได้สัญญาไว้ 

นายพริษฐ์ ยังกล่าวว่า วันนี้ชัดเจนว่ารัฐบาลยังทำตามแผนเดิมที่จะมีการทำประชามติ3ครั้งโดยไม่ริเริ่มจนกว่าจะมีการแก้พ.ร.บ.ประชามติเสร็จก่อนเป้าหมายดังกล่าวมีโอกาสเป็นจริงน้อยมากจึงเห็นว่าความเป็นไปได้คือการลดจำนวนประชามติเหลือ2ครั้งวันนี้จึงอยากเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการรักษาสัญญาที่ใหเไว้ต่อประชาชน เรื่องนี้เป็นเป้าหมายรัฐบาลและแกนนำพรรคฝ่ายค้านก็เห็นในทิศทางเดียวกันวันนี้ตนสวมหมวก2ใบคือสส.พรรคประชาชนและประธานกมธ.พัฒนาการเมืองฯ อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งก็พยายามทำเต็มที่และอยากให้รัฐบาลมาร่วมมือตรงนี้ 
 

อย่างไรก็ดี กมธ.ได้ทำหนังสือของเช้าพบ.ฉบับคือประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานสภา และนายกรัฐมนตรี วันนี้ได้เข้าพบประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานสภาแล้วก็รอคำตอบจากนายกฯอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้นายกฯระบุว่าพร้อมที่จะพูดคุย จึงเป็นเจตนาของเราอยู่แล้วที่จะเข้าหารือฝ่ายบริหารซึ่งต้องรอว่ารัฐบาลจะพร้อมให้เราเข้าพบเมื่อไหร่

ส่วนตัวเชื่อว่าหากคณะกรรมการประสานงานบรรจุวาระก็จะสามารถทำให้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญได้ทันทีหลังสภาเปิดสมัยประชุมในวันที่12ธ.ค. ซึ่งจะผ่าน3วาระภายใน3-6เดือนฉะนั้นประชามติรอบแรกก็อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี2568 ก่อนจะมีการเลือกตั้งส.ส.ร. ขึ้นมาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อไปทำประชามติรอบ2ในช่วงต้นปี2570ซึ่งถือว่าทันก่อนการเลือกตั้งฉะนั้นจึงอยากเห็นรัฐบาลรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อประชาชน