ราชทัณฑ์แจงพักโทษ 'เสี่ยเปี๋ยง' ป่วยร้ายแรงเข้าเงื่อนไข คุมประพฤติถึงปี 77
'กรมราชทัณฑ์' แจงละเอียด ปมพักโทษปล่อยตัว 'เสี่ยเปี๋ยง' ผู้ต้องขังคดีระบายข้าวจีทูจี-บ้านเอื้ออาทร ชี้เข้าเกณฑ์ป่วยร้ายแรงสารพัดโรค ให้ออกไปรักษาตัว แต่ยังถูกคุมประพฤติยาวถึง 27 ก.ค. 2577
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงรายละเอียดการพักโทษ และปล่อยตัว นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ผู้ต้องขังคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และคดีทุจริตการก่อสร้างบ้านเอื้ออาทร ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม เหลือกำหนดโทษปัจจุบัน 21 ปี 11 เดือน 38 วัน นับแต่วันที่ 27 ต.ค.2558 หักขัง 1191 วันจำมาแล้ว 12 ปี 1 เดือน (นับถึงวันที่ 20 ส.ค.2567) จะพ้นโทษวันที่ 27 ก.ค.2577
โดยกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นายอภิชาติ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยมที่ได้รับการพิจารณาจากคณะทำงาน เพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษในชั้นเรือนจำ ตามโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ และได้เสนอให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ พิจารณาตามลำดับและเห็นควรให้พักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ
เนื่องจากนายอภิชาติมีคุณสมบัติเข้าตามหลักเกณฑ์กรณีเจ็บป่วยร้ายแรง ได้แก่ โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคความดันโลหิตสูง โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับชนิดรุนแรง โรคต่อมลูกหมากโต โรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมองตีบ
โดยคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ได้ประชุมพิจารณาพักการลงโทษ ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2567 มีมติเห็นชอบพักการลงโทษนายอภิชาติ เนื่องจากนายอภิชาติ ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไต (เปลี่ยนไต) จึงต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ไตสามารถเข้าได้กับร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ มีโอกาสติดเชื้อรุนแรงอันอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ประกอบกับในเรือนจำมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อสภาพของเรือนจำไม่สามารถที่จะควบคุมดูแลผู้ต้องขังเจ็บป่วยร้ายแรงเช่นนี้ได้ ประกอบกับได้รับการจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษปัจจุบัน จึงได้พักการลงโทษ
กรมราชทัณฑ์ มีหน้าที่ในการควบคุมผู้ต้องขังตามคำพิพากษาของศาล การให้การดูแลรักษาผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยทั้งจากสถานพยาบาลในเรือนจำ ทัณฑ สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพที่สูงกว่า ทั้งนี้ตามสภาพความรุนแรงของการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 และมีอำนาจในการบริหารโทษภายใต้กฎหมายเกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 กฎกระ ทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุก หรือการพักการลงโทษ และได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 และประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการหรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าการปล่อยตัวของนายอภิชาติ เป็นการปล่อยตัวพักการลงโทษ และต้องไปรายงานตัวในเขตพื้นที่สำนักงานคุมประพฤติ ตามที่ผู้อุปการะพักอาศัย ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติ ตามระยะเวลาที่ได้รับการพักการลงโทษจนกว่าจะพ้นโทษหรือพ้นการคุมประพฤติต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป มีการดำเนินการมาตั้งแต่ 2546 อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้กฎกระทรวง และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายที่มีคุณสมบัติและเข้าหลักเกณฑ์อย่างเท่าเทียมกัน มิได้ให้สิทธิพิเศษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด โดยกรมราชทัณฑ์ได้มีการปล่อยตัวพักการลงโทษกรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2565 จำนวน 18 คน ปี พ.ศ.2566 จำนวน 26 คน และปี พ.ศ.2567 จำนวน 27 คน
โดยกรมราชทัณฑ์ มีผู้ต้องขังที่อยู่ในการควบคุมดูแลเกือบ 300,000 คน ทำ ให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังในกรณีพักการลงโทษ ลดวันต้องโทษ และปล่อยตัวพ้นโทษ เป็นปกติทุกวัน มิได้ปกปิดในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมามีการพิจารณาเห็นชอบการพักการลงโทษแบบปกติ 281 คน และกรณีมีเหตุพิเศษ 40 คน