'บิ๊ก ยธ.' แจงละเอียดปมพักโทษ 'บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง' เข้าเงื่อนไข ไม่บังเอิญ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2567 ที่อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.​ยุติธรรม พร้อมผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงประเด็นการปล่อยตัวพักโทษรายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งเป็นกระแสข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจร่วมกัน

พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การพิจารณาการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ มี 2 รูปแบบ โดยแบบปกติเป็นนักโทษชั้นกลาง ชั้นดีเยี่ยม การจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ขอกำหนดโทษ ส่วนแบบพิเศษเป็นการจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 รวมทั้งมีอาการป่วยรุนแรงและเฉพาะกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจะมีการพิจารณาเสนอรายชื่อจากทางเรือนจำและคณะกรรมการ 8 ราย เข้าอนุกรรมการกรมราชทัณฑ์ 19 ราย ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ แพทย์ ศาล กรม ประพฤติ โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ทั้งนี้ ในปี 66 มีการพักโทษแบบปกติ 10,552 คน แบบพิเศษ 1,776 คน รวม 12,328 คน ส่วนปี 67 มีการพักโทษแบบปกติ 6,792 คน แบบพิเศษ 1,320 คน รวมทั้งสิ้น 8,112 คน ข้อมูล ณ วันที่ 5 ม.ค. 2567

ขณะที่นายสมบูรณ์ ศิลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม กล่าวว่า กรณีนายอภิชาติ ได้รับโทษในแบบกรณีพิเศษ มีอายุเกิน 70 ปี และมีโรคป่วยร้ายแรง 7 โรค โดยเฉพาะโรคไตวายเรื้อรัง มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต หากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เข้ากลุ่มผู้ป่วย 608 ซึ่งต้องอยู่ในกระบวนการรักษาที่เหมาะสม รวมทั้ง มีผู้อุปการะเป็นหลักแหล่ง โดยการพิจารณาความเห็นของคณะอนุกรรมการมีความเห็นชอบ 8:0 ในการพักโทษนายอภิชาติ ก่อนเสนอในระดับกรมราชทัณฑ์ต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีผู้ต้องขังคดีจำนำข้าวอีก 2 รายอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม เพราะโทษยังไม่เข้าหลักเกณฑ์

นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กล่าวว่า สุขภาพของนายอภิชาติ มีประวัติโรคประจำตัวตามวัยอยู่แล้ว ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง กระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม มีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด กระทั่งปี 65 พบความผิดปกติมีภาวะบวม ปัสสาวะออกน้อย จากการตรวจเลือดมีค่าไตผิดปกติ จึงส่งตัวไปรักษาต่อโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพสูงกว่า คือ รพ.รามาธิบดี มีแพทย์เฉพาะทางดูแลโรคไต จากวินิจฉัยโรคพบว่าเป็นโรคไตเสื่อมระยะสุดท้าย ต้องฟอกไต ล้างไตด้านหน้าท้อง จนกลางปี 2566 ต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนไต แต่นายอภิชาติยังช่วยเหลือตัวเองได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ในปี 2566 มีผู้ต้องขังเป็นโรคไต ประมาณ 15 ราย เข้าเกณฑ์พักโทษ 1 ใน 3 และยังมีผู้ต้องขังโรคไตอีกหลายรายกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ถ้าเข้าเกณฑ์พักโทษ

ส่วนนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเรือนจำ มีการเสนอชื่อผู้ป่วยหนักมา 3 รายแต่พิจารณาเพียง 2 ราย คือ นายอภิชาติป่วยโรคไตร้ายแรง และ ผู้ต้องหาเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย 1 ราย ส่วน ผู้ต้องขังความผิดต่อศีลธรรมอีก 1 รายได้ปัดตกไป โดยนายอภิชาติได้รับพระราชทานอภัยโทษ 5 ครั้ง แต่เข้าเกณฑ์พักโทษกรณีเจ็บป่วยร้ายแรง แม้บางคนอายุน้อยก็สามารถเข้าหลักเกณฑ์ได้ รวมถึง เป็นผู้ต้องขังรายแรกที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนไต นอกนั้นเป็นผู้ต้องขังฟอกไต ซึ่งการพักโทษยังอยู่ระหว่างการรับโทษ และต้องรายงานตัวตอบกรมคุมประพฤติตามกำหนด นอกจากนี้ ในส่วน นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ โทษจำคุก 48 ปี ได้รับอภัยโทษ 4 ครั้ง จนเหลือ 10 ปี 8 เดือน จำคุก 7 ปี 3 เดือน 10 วัน ครบ 2 ใน 3 ตามเงื่อนไขแบบปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีทุจริตที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองโทษจำคุก 40 กว่าปี แต่กลับรับโทษจริงไม่ถึง 10 ปี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ กล่าวว่า การอภัยโทษเป็นพระราชอำนาจ ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์เป็นเพียงต้นเรื่องให้ยื่นคำร้องผ่าน นายกรัฐมนตรี เพื่อถวายกราบบังคมทูลฯ

เมื่อถามว่าประเด็น นายอภิชาติป่วยหนักเทียบเคียงกับกรณีนายทักษิณ ชินวัตร เคยอ้างเจ็บป่วยจนถูกส่ง รพ.ตำรวจ จนเกิดข้อครหานั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ยืนยันการวินิจฉัยมาจากแพทย์และต้องส่ง รพ. เพื่อรักษาตัวต่อ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวอยู่ใน ป.ป.ช. ดำเนินการแล้วจึงไม่ขอลงรายละเอียด ส่วนคดีผู้ต้องหาคดีจำนำข้าวหลายรายถูกปล่อยตัวในรัฐบาลชุดนี้ อาจเป็นช่วงถูกลงโทษครบเงื่อนไขพอดี

ส่วนนายพรประศม แก้วเสถียร ผู้อำนวยการกลุ่มงานพักโทษการลงโทษ กองทัณฑ์ปฏิบัติ กรมราชทัณฑ์ กล่าวเสริมว่า กรณี นายภูมิ สาระผล ผู้ต้องหาคดีจำนำข้าว กำหนดโทษ 8 ปี จำมาแล้ว 6 ปี 12 เดือนเศษ ได้รับการปล่อยตัวแบบปกติ ในเดือน ส.ค. 2567 นอกจากนี้ ในส่วนคดีบ้านเอื้ออาทรนั้น นายอภิชาติยังถูกอายัดคดีและอยู่ในการเกณฑ์พักโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ สอบถามทีมผู้บริหารกระทรวงและกรมราชทัณฑ์ ถึงกรณีการพักโทษนายบุญทรง และนายอภิชาติ ผู้ต้องขังคดีทุจริตสร้างความเสียหายให้แก่รัฐกว่า 9 แสนล้านบาท ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามคำพิพากษาศาลแล้วหรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกจำคุก ก่อนจะที่เข้ารักษาอาการเจ็บป่วยที่ชั้น 14 ของ รพ.ตำรวจนั้น ได้มีการส่งเอกสาร โดยเฉพาะเวชระเบียนให้แก่ ป.ป.ช. ครบถ้วนแล้วหรือไม่ โดยนายสมบูรณ์ ชี้แจงว่า การส่งมอบเวชระเบียนนั้น เป็นสิทธิ์ของคนไข้ที่จะให้หรือไม่ก็ได้ หากไม่ให้ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์นำเวชระเบียบที่เป็นความลับในการรักษาไปมอบให้ ป.ป.ช. เพราะมีความผิดตามกฎหมาย ย้ำว่ากรมราชทัณฑ์ไม่สามารถส่งเวชระเบียนให้ ป.ป.ช. ได้ เพราะคนไข้ไม่อนุญาต ยืนยันว่า การดำเนินการพักโทษนั้น ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ไม่ได้ใช้ดุลยพินิจส่วนตัว