‘ภูมิธรรม' ยัน บึ้มงานกาชาด จ.ตาก ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ เหตุวัยรุ่นตีกัน  

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนตัล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดงานกาชาดในพื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าเหตุเกิดที่อ.อุ้มผาง จ.ตาก โดยเหตุการณ์เริ่มต้นตั้งแต่มีวัยรุ่นชกต่อยกันสองกลุ่ม และหลังจากนั้นก็มีเหตุระเบิดขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังสับสน แต่จากที่ตนได้รับรายงานมาคือมีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้ได้รับบาดเจ็บ 39 ราย บางแหล่งก็บอกว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 ราย แต่ขณะนี้กำลังตรวจสอบกับสถานีตำรวจในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ระเบิดที่ใช้เกิดเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบขึ้นเอง ไม่ใช่ระเบิดสงคราม และไม่ใช่อาวุธสงครามเป็นเหมือนระเบิดขวด แต่อยู่ที่ส่วนผสม และบริเวณที่คนยืนอยู่หนาแน่นมากหรือไม่ ซึ่งจุดเกิดเหตุมีคนยืนอยู่กว่า 100 คน และสามารถจับผู้ต้องสงสัยในกลุ่มที่ชุลมุนอยู่ตรงนั้นได้มาจำนวนหนึ่ง ต้องรอให้หน่วยกู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบ และรอให้มีความชัดเจนก่อน

เมื่อถามว่า ไม่ใช่การเกิดเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ ตรงนั้นเป็น ด่านที่ไม่เคยมีความรุนแรงอะไร เพราะเป็นเส้นทางของการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปที่เมียวดี ประเทศเมียนมา ทั้งฝ่ายเมียนมา และฝ่ายต่อต้าน ทุกคนก็ต้องการให้สินค้าเราเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้น ดังนั้น จึงเป็นความต้องการของสองฝ่ายจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเคยมีปัญหาที่เมียนมาปิดเส้นทางชั่วขณะ แต่ถึงที่สุดแล้วก็ต้องเปิด เพราะทั้งสองฝ่ายต้องการสินค้า และอาหารจากไทยทั้งสิ้น ฉะนั้น ไม่ใช่เขตสงครามหรือเขตที่มีความน่ากังวลใจเรื่องนี้ และก็ไม่ใช่อาวุธสงคราม แต่เป็นการขว้างระเบิดขึ้นมา

ถามย้ำว่า เบื้องต้นเป็นเพียงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คาดว่าเป็นเช่นนั้น แต่ต้องสอบสวนก่อน ต้องทำความเข้าใจทุกเรื่อง แล้วค่อยว่ากันอีกที

เมื่อถามว่า ขณะนี้ทั่วประเทศกำลังมีการจัดงานกาชาด ก็อาจจะเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัย จำเป็นจะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จริงๆ มาตรการรักษาความปลอดภัยของแต่ละจังหวัด มีการวางแผนไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็ต้องมีการกำชับให้ดำเนินมาตรการอะไรที่พิเศษมากขึ้น เพื่อระมัดระวังมากขึ้น เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่มีคนหมู่มาก โอกาสที่จะเกิดปัญหาก็มีอยู่แล้ว 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ดังนั้น เราต้องเข้มงวดเต็มที่ อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้คือปัญหาเรื่องเราใช้กำลังพลในการตรวจสอบ ความจริงถ้าเราสามารถพัฒนาเครื่องมือสำคัญ หรือเครื่องมือพิเศษให้แต่ละหน่วยได้ใช้ คงจะดีขึ้นกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาที่จะคุยกัน และเอางบประมาณลงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในแผนอยู่แล้ว แต่ในหลายประเทศที่เคยไปดูงานมา เขาติดเครื่องมือที่เชื่อมกับดาวเทียมวงโคจรต่ำ สามารถดูอาชญากร เรื่องการจราจร เรื่องภัยพิบัติต่างๆ ก็สามารถเห็นได้อย่างในประเทศจีนหรืออีกหลายประเทศก็มีกล้องวงจรปิดดู และสามารถส่งเข้าไปที่ศูนย์บัญชาการ เพื่อให้เห็นปฏิกิริยาต่างๆ และสามารถที่จะตามจับอาชญากรได้ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เราจะต้องเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่า ระเบิดดังกล่าวใครก็สามารถประกอบได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในชั้นต้น ระเบิดเขวี้ยง ระเบิดขวดแบบนี้ สามารถประกอบได้และความรุนแรงหรือไม่นั้นก็อยู่ที่สาร ที่นำมาใช้ซึ่งยังไม่ได้ยืนยันอะไร ขอให้หน่วยงานที่ต้องตรวจสอบเข้าไปดูให้ชัดเจนมากขึ้นกว่านี้ก่อน