‘ศึกริมโขง’ สงครามตัวแทน สหายแสง vs รมต.เดือน
การลาออกของ “นายกขวัญ” ศุภพานี โพธิ์สุ นนายก อบจ.นครพนม ก่อนครบวาระเพียง 4 วัน แน่นอนว่า เป็นการส่งสัญญาณเตรียมพร้อมลงสู้สนามนายกอบจ.และสมาชิกอบจ.ทั่วประเทศ
KEY
POINTS
- จับตาการเปิดฉากของ “สงครามตัวแทน” ริมฝั่งโขง ที่จะชี้ชะตากันในเดือน ก.พ.นี้
- นายกฯขวัญ” นายกอบจ.นครพนม ที่เพิ่งลาออกก่อนครบวาระ4วัน คือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตส.ส.นครพนม และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จาก “ค่ายสีน้ำเงิน”
- สหายแสง” ซึ่งปั้น “นายกขวัญ” ลูกสาวลงชิงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัย ยังต้องไปชนกับ “รัฐมนตรีเดือน” มนพร ที่เวลานี้ขึ้นแท่นเป็น รมช.คมนาคม
- “รัฐมนตรีเดือน” ที่พกความแค้นมา 4 ปี หลังเพื่อไทยพ่ายศึกนายก อบจ.นครพนม รอบที่แล้ว มารอบนี้ ปั้นมือขวา “นายกเบียร์”อนุชิต หงษาดี โดยเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
- ต่างฝ่ายต่างมีแรงแค้น จากศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ฝั่ง “สหายแสง” แพ้รมต.เดือน จากการเลือกตั้งสนามใหญ่ ขณะที่“รมต.เดือน” ถือเดิมพันสูงลิบ หวังกู้ศักดิ์ศรีศึก อบจ.รอบที่แล้ว
การลาออกของ “นายกขวัญ” ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (นายก อบจ.นครพนม) เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ก่อนครบวาระในวันที่ 20 ธ.ค. ที่จะถึงนี้เพียง 4 วัน
แน่นอนว่า เป็นการส่งสัญญาณเตรียมพร้อมลงสู้สนามนายกอบจ.และสมาชิกอบจ.ทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรับสมัคร ในวันที่ 23 - 27 ธ.ค.นี้
“นายกขวัญ” พูดถึงสาเหตุการลาออก ก่อนครบวาระเพียง 4 วัน ไม่ถือว่าเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบ ไม่มีผลทางการเมือง แต่เป็นการเปิดทางให้การปฏิบัติงานของข้าราชการในสังกัด โดยเฉพาะปลัดอบจ.นครพนม ถือเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งฯ จะได้มีอำนาจเต็มในการลงนามสั่งการหนังสือราชการ แทนที่จะเป็นนายกอบจ.ซึ่งมีอำนาจแต่เดิม
ต้องจับตาการเปิดฉากของ “สงครามตัวแทน” ริมฝั่งโขง ที่จะชี้ชะตากันในเดือน ก.พ.นี้ เพราะเป็นที่รู้กันโดยทั่วว่า “นายกฯขวัญ” นายกอบจ.คนปัจุบัน คือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตส.ส.นครพนม และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จาก “ค่ายสีน้ำเงิน”
สนามนายกอบจ.รอบที่แล้ว “นายกขวัญ” ลงชิงในนามกลุ่มนครพนมร่วมใจ ล้ม“สมชอบ นิติพจน์” กลุ่มรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 5 หมื่น
ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ทำให้ “สหายแสง” ผู้เป็นพ่อ ทวีความอหังการเป็นเท่าทวีคูณ ส่งผลมาถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่ ที่มีการปรับทัพ ขยับ “พูนสุข โพธิ์สุ” ศรีภรรยา ไปลงสมัครสส. เขต1 ซึ่งเป็นเขตเดิมของตน ส่วน “สหายแสง” ขยับไปลงเขต 2 ชนกับ“มนพร เจริญศรี” แห่งพรรคเพื่อไทย
ทว่า ผลการเลือกตั้งปรากฎว่า “2 สามีภรรยา” พ่ายแพ้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 เขต โดยครั้งนั้น“เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” แบ่งที่นั่งสส.กันไปคนละครึ่ง พรรคละ 2 ที่นั่ง
เขต1 ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย เอาชนะ “พูนสุข” จากพรรคภูมิใจไทย ทิ้งห่างกว่า 1 หมื่นคะแนน
เขต 2 มนพร จากพรรคเพื่อไทย เอาชนะสหายแสง จากพรรคภูมิใจไทย ทิ้งห่างกว่า 9 พันคะแนน
เขต 3 อลงกต มณีกาศ จากพรรคภูมิใจไทย ล้ม ไพจิต ศรีวรขาน แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย ทิ้งห่างกว่า 1 หมื่นคะแนน
เขต 4 ชูกัน กุลวงษา จากพรรคภูมิใจไทย เอาชนะ ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายกอบจ. จากพรรคเพื่อไทย
ศึกชิงนายกอบจ.นครพนมรอบนี้ “สหายแสง” ซึ่งปั้น “นายกขวัญ” ลูกสาวลงชิงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัย ยังต้องไปชนกับ “รัฐมนตรีเดือน” มนพร ที่เวลานี้ขึ้นแท่นเป็น รมช.คมนาคม
ฝั่ง “รัฐมนตรีเดือน” ที่พกความแค้นมา 4 ปี หลังเพื่อไทยพ่ายศึกนายก อบจ.นครพนม รอบที่แล้ว มารอบนี้ ปั้นมือขวา “นายกเบียร์”อนุชิต หงษาดี นายก อบต.โพนสวรรค์ ลงสมัครนายก อบจ.นครพนม ในนามทีมฮักนครพนม ค่ายเพื่อไทย โดยเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ชั่วโมงนี้ “รัฐมนตรีเดือน” ถือเป็นมือทำงานของนายใหญ่ และเป็นคู่คิดคู่ใจของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม ย่อมพกความมั่นอกมั่นใจมากกว่ารอบที่แล้ว
ไม่ต่างจาก“นายกเบียร์” ที่เดิยสายพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ได้หอบหิ้วกระเช้าของขวัญไปคารวะ “อดีตสส.ไพจิต” ถึงถิ่นเรณูนคร
จะว่าไป ทั้ง “ไพจิต” จากพรรคเพื่อไทย และ “สหายแสง” จากถูมิใจไทย เดิมทีก็เป็น“พวกต่างพรรค” เห็นได้จากศึกเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งที่แล้ว ที่ว่ากันว่าชัยชนะของ “นายกขวัญ” ส่วนหนึ่งมาจากการจับมือกันระหว่าง “ไพจิต” และ “สหายแสง”
ทว่า หลังเสร็จศึกการเมืองสนามใหญ่ ซึ่งเกิดปรากฎการณ์ล้มแชมป์ "ไพจิต" พลิกพ่าย "อลงกต" ทีมงานสหายแสงจากพรรคภูมิใจไทย จึงจับตาว่า สัญญาใจของ “สิงห์เหนือ” และ “เสือใต้” มิตรร่วมรบต่างพรรค จะแปรเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด
เป็นเช่นนี้ จึงต้องจับตา “สงครามตัวแทน” ริมฝั่งโขง ที่กำลังเปิดฉากอยู่ในเวลานี้ ต่างฝ่ายต่างมีแรงแค้น จากศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ฝั่ง “สหายแสง” แพ้รมต.เดือน จากการเลือกตั้งสนามใหญ่ ขณะที่“รมต.เดือน” ถือเดิมพันสูงลิบ หวังกู้ศักดิ์ศรีศึก อบจ.รอบที่แล้ว
เชื่อได้ว่า กว่าจะถึงวันรู้แพ้-รู้ชนะ ต่างฝ่ายต่างงัดสารพัดกระบวนท่าออกมาฟาดฟันกันอย่างดุเดือดแน่นอน!