'กมธ.ทหาร' ลงพื่นที่เกาะสอง12-14 ม.ค. ตามปม 4 ลูกเรือประมงไทย
กมธ.ทหาร จี้ "นายกฯ" เคลียร์ 3 ประเด็น ปม 4 ลูกเรือประมงไทยถูกจำคุกที่เมียนมา เตรียมยกทีมลงพื้นที่เกาะสอง12-14 ม.ค.
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงกรณีศาลเมียนมาสั่งจำคุก 4 ลูกเรือประมงชาวไทย และจะมีการปล่อยตัวหลังปีใหม่ ว่า จากที่ประชุม กมธ.ทหาร กรณีลูกเรือประมงไทยที่ถูกเรือรบเมียนมายิง จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่พิเศษที่ยังไม่มีการอ้างสิทธิ จึงไม่มีฐานอ้างอิงสากลใด ที่เราต้องยอมรับว่า เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา
กรมสนธิสัญญา แจ้งกับ กมธ.ทหาร ว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทย ประสานเพื่อขอให้เมียนมาปล่อยตัวลูกเรือประมงไทยอย่างต่อเนื่อง แต่กรณีที่อยู่ดีๆ ศาลเมียนมาก็พิพากษาจำคุกลูกเรือประมงไทย แล้วอ้างว่า เป็นกระบวนการที่ต้องทำ เป็นการดำเนินการที่เมียนมาไม่เคยแจ้งให้ทางการไทยทราบมาก่อน
กรมสนธิสัญญา ยืนยันว่า คำพิพากษาที่ระบุว่า “ลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา โดยลูกเรือประมงไทยรับสารภาพ” นั้นไม่ได้ผูกพันรัฐไทย และหลังจากที่มีการปล่อยตัวลูกเรือประมงไทย กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือสงวนความเห็นต่อคำพิพากษานี้ โดยทันที
1.ให้แสดงท่าทีต่อเมียนมาอย่างจริงจังว่าเราต้องการให้ลูกเรือไทยกลับบ้าน โดยมีกำหนดที่ชัดเจน และไม่ควรมีการเลื่อน ครม.ควรมีมติ ในการเตรียมความพร้อม ทั้ง ก.กลาโหม และความร่วมมือระหว่างรัฐ อย่างได้สัดส่วนกับท่าทีของเมียนมา
2ทบทวนคำพิพากษาของศาลเมียนมาอย่างละเอียด และทำหนังสือสงวนความเห็น ต่อประเด็นที่เมียนมาอ้างว่าลูกเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา เพื่อยืนยันว่าคำพิพากษานี้ไม่ผูกพันรัฐไทย เพราะที่ผ่านมาเราทำหนังสือประท้วงเพียงแค่การใช้กำลังเกินกว่าเหตุ แต่ยังไม่เคยโต้แย้งในเรื่องเขตแดน
3.ต้องพิจารณาถ้อยคำในหนังสือขออภัยโทษของลูกเรือไทยทั้ง 4 คนอย่างรอบคอบแบบยิ่งยวด โดยจะต้องไม่มีถ้อยคำใด ที่ทางการไทยยอมรับว่า จุดเกิดเหตุเป็นเขตแดนของเมียนมา
มติ กมธ.ทหาร จะขอเดินทางไปเยือนเกาะสอง อย่างเป็นทางการในวันที่ 12-14 ม.ค. 68 โดยให้เร่งรัดการขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ระหว่างสมัยประชุม เป็นการด่วนที่สุด หากได้รับข่าวดีว่าลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัวก่อน ก็ให้พิจารณาปรับกำหนดการไปหารือกับหน่วยราชการในพื้นที่แทน
การคลี่คลายข้อพิพาทกรณีลูกเรือประมงไทย ผมยืนยันว่าต้องใช้กลไกทางการทูต และการเจรจา แต่รัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสดงภาวะผู้นำ ว่าเราจริงจัง และใส่ใจในเรื่องนี้อย่างยิ่งยวด และแสดงให้รู้ว่ารัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในการรับมืออย่างได้สัดส่วน ต่อท่าทีของเมียนมาในทุกรูปแบบ
ศร.ชล. ได้แจ้งต่อ กมธ.ทหารว่า “เส้นปฏิบัติการ” เป็นเส้นที่กำหนดขึ้นเพื่อกำหนดภารกิจทางการทหาร ไม่ใช่เส้นแบ่งเขตแดน และปกติจุดที่เรือประมงไทยถูกยิง ก็มีกิจกรรมอื่นๆ เช่น เรือขนถ่ายสินค้า เรือท่องเที่ยว เกิดขึ้นอยู่เป็นปกติ ต่อให้มีการล้ำเส้นปฏิบัติการ ก็ไม่ใช่การล้ำเขตแดน