'โรม' ลั่นมีหมัดเด็ดยื่นซักฟอก อุบไต๋เอาแค่นายกฯหรือทั้ง ครม.

'โรม' ลั่นมีหมัดเด็ดยื่นซักฟอก อุบไต๋เอาแค่นายกฯหรือทั้ง ครม.

'โรม' สส.ปชน.ลั่นมีหมัดเด็ดยื่นซักฟอก อุบไต๋เอาแค่นายกฯหรือทั้ง ครม. หวั่นรู้ตัวก่อน เผยปี 68 มีงานสำคัญรอท้าทายอยู่หลายเรื่อง 'ฝ่ายค้าน' ทำงานเชิงรุกเต็มที่

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2567 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในปี 2568 เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าทำเชิงรุกมากขึ้นว่า ฝ่ายค้านเราทำงานเชิงรุกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมาย และในแง่ของการตรวจสอบในวาระสำคัญ ก็ตรวจสอบมาแล้ว อย่างไรก็ตามงานสำคัญในปี 2568 ที่รออยู่ท้าทายหลายเรื่อง

“มีโจทย์สำหรับรัฐบาลหลายเรื่องที่ต้องแก้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการช่วยเหลือคนไทยที่เป็นลูกเรือประมงที่ถูกเมียนมาจับไปทั้ง 4 คน ซึ่งดูเหมือนว่าการช่วยเหลือคงไม่ทันก่อนปีใหม่แล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องด่วนที่สุดการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 4 คน ดังนั้นในวันที่ 4 มกราคม 2568 ที่ทั้ง 4 คนจะได้รับการปล่อยตัว แต่ถ้ายังไม่ได้รับการปลอยตัว ผมคิดว่ารัฐบาลต้องมีมาตรการเชิงรุกมากขึ้น นี่ถือเป็นเรื่องแรกที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องรีบจัดการ” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 คือเรื่องว้า ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่เป็นความท้าทายอย่างมากของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นไปได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราใช้งบประมาณด้านความมั่นคงไปเยอะมาก แต่เราปล่อยให้ ขบวนการ ซึ่งเท่ากับก่อการร้ายอย่างว้า ที่ทำเรื่องยาเสพติดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถที่จะล้ำแดนเข้ามาในประเทศไทยได้แบบนี้ ซึ่งส่งผลต่อปัญหายาเสพติดในภาพรวมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นี่คือโจทย์ที่เราต้องทำงานเชิงรุกอย่างเข้มข้น เรื่องที่ 3.คอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าเป็นอีกปัญหาใหญ่เช่นเดียวกัน

“ทั้งสามเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาระหว่างประเทศและอาชญากรรมข้ามชาติ แล้วเกี่ยวข้องกับปัญหาเมียนมา ผมกำลังจะบอกว่าวันนี้ประเทศไทยเหมือนกับเรากินน้ำใต้ศอกของรัฐบาลทหารเมียนมา ทุกอย่างดูอ่อนช้อย ดูเบาบาง ไม่สามารถปกป้องพี่น้องประชาชนได้ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการแสดงถึงการปกป้องคนไทยจากปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น วันนี้ปัญหาของโลกซับซ้อนมากขึ้น เราต้องการการรับมือของรัฐบาล และในมิติเศรษฐกิจก็มี โดยเฉพาะการก้าวขึ้นมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหลายคนเป็นห่วงว่าเรื่องภาษีต่างๆ ของสินค้าไทยที่ส่งไปที่สหรัฐจะถูกเพิ่มหรือไม่ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีมาตรการต่างๆ มารองรับ ผมจึงคิดว่า ปี 2568 เป็นปีที่ดุแน่นอน แต่จะดุต่อใครผมไม่ขอฟันธง ดุต่อประชาชนมีความเป็นไปได้สูงมาก” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่หลายฝ่ายมองว่าฝ่ายค้านไม่เต็มที่ในการตรวจสอบ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะเราเต็มที่ในการทำงานขอยกตัวอย่างกรณีที่หลายคนชอบวิจารณ์เรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารักษาที่ชั้น 14 และเรื่องต่างๆ เราก็เต็มที่ซึ่งอภิปรายเรื่องของนายทักษิณมาตลอด เพียงแต่สังคมอาจจะคาดหวังว่าต้องมากกว่านี้อีก ซึ่งในการทำงานของพวกเราเราพยายามทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลและข้อเท็จจริง เราไม่ได้พยายามสร้างผีตัวใหม่ ถ้าสมมุติว่านายทักษิณต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นแกล้งป่วย หรือเรื่องต่างๆ ตนคิดว่าต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่กับเรื่องนี้ และจะต้องมีคนที่จะต้องติดคุกกับเรื่องนี้

“ผมคิดว่ากระบวนการเรื่องชั้น 14 มันก็ชัดเจนในตัวของมันแล้วว่า วันนี้คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง ซึ่งก็น่าจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเราก็พร้อมในการที่จะทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ต้องยอมรับว่าในการที่จะไปดำเนินการใดๆ ให้มีการตัดสินทางคดีเราอาจจะไม่มีอำนาจขนาดนั้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่จะเกิดขึ้น ฝ่ายค้านจะพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี หรือทั้งคณะ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงตอบไม่ได้เพราะยังอยู่ในช่วงของการเตรียมและไม่อยากให้ใครรู้ตัว เราคงจะต้องเก็บไว้ก่อนแต่เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่แน่นอน และการทำหน้าที่ของเราตามมาตรฐานที่ทำมาต้องมีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน ไม่ใช่ประเภทแบบโวหารวาทศิลป์ โดยที่ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร ยืนยันว่าการอภิปรายฯครั้งนี้มีหมัดเด็ดแน่นอน