ป.ป.ช.ฟันอาญา-จริยธรรมร้ายแรง 'ณัฏฐ์ชนน' สส.ภท.ปมรับเงินค่ารักษาพยาบาล

ป.ป.ช.ฟันอาญา-จริยธรรมร้ายแรง 'ณัฏฐ์ชนน' สส.ภท.ปมรับเงินค่ารักษาพยาบาล

ป.ป.ช.ฟันอาญา-จริยธรรมร้ายแรง 'ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ'สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ปมรับเงินค่ารักษาพยาบาล

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ  เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่าที่ประชุมป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ  ขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา  พรรคภูมิใจไทย กรณีถูกกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากบุคคล เนื่องจากยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง 

โดยมีข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่านายณัฏฐ์ชนน  เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2562 และวันที่ 23 กันยายน -วันที่ 18 ตุลาคม 2562 มีค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งสิ้น 1,449,223 บาท โดยได้ยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลแทนตนเองรวมเป็นเงิน 1,335,778 บาท และได้นำใบเสร็จรับเงินค่ารักษาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 495,409.50 บาท มีส่วนที่เกินไม่สามารถเบิกจ่ายได้เป็นเงินจำนวน 953,813.50 บาท  

ซึ่งต่อมานายณัฏฐ์ชนน  ได้เสนอแต่งตั้ง 1 ใน 3 ราย ที่ชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตนเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวตามคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ 2455/2563 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งการกระทำของนายณัฏฐ์ชนน  จึงเป็นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้อื่นนอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมีความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตร ฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27   โดยส่งรายงานจำนวนการไต่สวนเอกสารพยานหลักฐานและความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอ นิกส์ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและให้เสนอเรื่องกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป