'พริษฐ์' จับตา 'สว.' ค้านแก้รธน. เหน็บจะเป็นปฏิปักษ์กว่า สว.ชุดเก่าหรือไม่

ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่มีสว.ประกาศไม่สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่พรรคประชาชนเสนอว่า ตนยินดีที่จะชี้แจงและอธิบายให้สว.ได้เข้าใจในรายละเอียด โดยในการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ที่จะมีตัวแทนของสว.เข้าร่วมด้วย ตนพร้อมจะชี้แจงและอธิบายในรายละเอียด อย่างไรก็ดีที่สว.ไม่เห็นด้วยเพราะตัดเกณฑ์ออกเสียงสว. 1 ใน 3 นั้น  หากย้อนไปในสภาฯ ชุดที่แล้ว พรรคเพื่อไทยเคยยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 ตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของสว.ออก รัฐสภาขณะนั้นโหวตเห็นชอบในหลักการ และมีสว.ชุดที่แต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประมาณ 100 กว่าคนโหวตเห็นชอบ เช่นเดียวกับสส.รัฐบาลในขณะนั้น 

“ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่าร่างที่เคยได้รับการเห็นชอบในปี 63 แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสว.ชุดใหม่ ทำไมจึงมองว่าการตัดเงื่อนไข 1 ใน 3 ของสว.ออก ไม่เป็นเหตุเป็นผล ตกลงแล้วสว.ชุดนี้จะเป็นปฏิปักษ์ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าชุดที่แล้วหรือไม่”นายพริษฐ์ กล่าว 

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่าสำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่พรรคประชาชน เสนอมีเนื้อหาสาระสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือ 1.การเพิ่มหมวด 15/1 ที่ให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2.การแก้ไขเกี่ยวกับเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนยังรอเนื้อหาของพรรคเพื่อไทยที่เสนอประกบ อย่างไรก็ดีตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาด้วย  อย่างไรก็ดีในประเด็นแก้รัฐธรรมนูญหากเห็นตรงกันในหลักการแต่ยังเห็นต่างในรายละเอียด ควรรับทุกเรื่องไปพิจารณา

"เรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้เคยประกาศต่อรัฐสภาและสัญญากับประชาชนแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ดีก่อนหน้านั้นใน ครม. ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ มีมติเห็นชอบต่อการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องผ่านประชามติ 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเราได้เคลียร์ทางและทำให้การแก้รัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ2 ครั้ง ไม่ควรมีเหตุผลที่ครม. ไม่ยื่น" นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าร่างของพรรคประชาชนอาจจะไม่ผ่าน นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนหวังว่าทุกฝ่ายจะพิจารณาร่างกฎหมายจากประโยชน์ส่วนรวม และระบบการเมืองที่ตอบโจทย์ประเทศไทย ไม่ใช่กังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไปลดอำนาจหรือไม่.