‘ปมลับวาระร้อน’ พท.- ภท. ‘ทักษิณ - เนวิน’ แฮปปี้นิวเยียร์ ?
การพบกันของ “2 นาย” นับเฉพาะที่ปรากฏผ่านสื่อเป็นรอบที่ 2ในรอบ 3 เดือน ยังไม่นับรวมการพูดคุยในทางลับ แถมยังเป็นช่วงจังหวะที่โหมดการเมืองกำลังสะท้อนภาพเกมชิงไหวชิงพริบรายวัน แน่นอนว่าย่อมแฝงไปด้วยนัยสำคัญที่ต้องจับตา
KEY
POINTS
- การพบกันของ “2 นาย” นับเฉพาะที่ปรากฏผ่านสื่อเป็นรอบที่ 2 ในรอบ 3 เดือน แถมยังเป็นช่วงจังหวะที่โหมดการเมืองกำลังสะท้อนภาพเกมชิงไหวชิงพริบรายวัน แน่นอนว่าย่อมแฝงไปด้วยนัยสำคัญที่ต้องจับตา
- สารพัดวาระร้อน เผินๆ เหมือน “พรรคเพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” จะมีการเปิดฉากเคลียร์กันเป็นระยะ แต่ลึกๆ แล้วยังซ่อนไว้ภายใต้เงื่อนไขต่อรองยื่นหมูยื่นแมวอีกมาก
- “ทักษิณ-เนวิน” ต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันเป็นอย่างดีการพบกันย่อมเป็นการสะท้อนถึงบทบาทของ 2 ผู้คุมเกมตัวจริง
การพบกันระหว่าง “2 ผู้มากบารมี” ทั้ง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย และ “ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ” แห่งภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 ที่ผ่านมา
แม้เบื้องหน้าตามคำให้สัมภาษณ์ของ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะบอกว่า เป็นเพียงการเดินสายอวยพรผู้หลักผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ไร้วาระการเมือง
ทว่าหากจับสัญญาณการพบกันของ “2 นาย” นับเฉพาะที่ปรากฏผ่านสื่อเป็นรอบที่ 2ในรอบ 3 เดือน ยังไม่นับรวมการพูดคุยในทางลับ แถมยังเป็นช่วงจังหวะที่โหมดการเมืองกำลังสะท้อนภาพเกมชิงไหวชิงพริบรายวัน แน่นอนว่าย่อมแฝงไปด้วยนัยสำคัญที่ต้องจับตา
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนต.ค.2567 ที่ผ่านมา มี “ข่าวปล่อย”แพร่สะพัด หลังเสร็จสิ้นพิธีปะกำช้าง เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี ที่สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2567 คล้อยหลัง 2 วัน “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองกรุง ในช่วงค่ำวันที่ 6 ต.ค.2567 เป้าหมายปลายทางที่ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านจันทร์ส่องหล้า
โดยฝั่ง “เนวิน” มี “มท.หนู อนุทิน” รวมอยู่ด้วย ขณะที่ฝั่ง “นายใหญ่” เวลานั้น มี “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร รวมถึง “เอม”พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาวนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ในฐานะเบื้องหลังคนสำคัญรวมอยู่ด้วย
เวลานั้นมีการจับตาไปที่สารพัดเกมต่อรองระหว่าง “ฝั่งแดง” และ “ฝั่งน้ำเงิน” กระทั่งเกิดวลี “ผูกให้เป็นนายกฯ” ซึ่ง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” พูดในพิธีปะกำช้างเนื่องในวันเกิด นัยสื่อถึง “เสี่ยหนู อนุทิน” เสมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงฉากการเมืองในอนาคต
ก่อนที่ต่อมาจะมีการยอมรับจาก "อนุทิน" ว่ามีการนัดพูดคุยระหว่าง 2 นายใหญ่เกิดขึ้นจริง
ไม่ต่างจากครั้งนี้ แน่นอนว่า ท่ามกลางเกมขบเหลี่ยม - ชิงเล่ห์ สะท้อนภาพความระหองระแหงกันระหว่าง “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่เปิดฉากเป็นระยะจนถึงวินาทีนี้ นำมาสู่กระแสข่าว “ปรับ ครม.” รีเซตพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค
ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นภาพของการร่วมก๊วน “โชว์สวิง” ระหว่าง “ทักษิณ” และ “มท.หนู” ที่ปรากฏภาพส่งท้ายศักราช ปี 2567 ที่ว่ากันว่า ไม่ใช่แนวชื่นมื่นสยบรอยร้าวอย่างที่คิดแต่เป็นแนว “เรียกมาเคลียร์” เป็นฉากแรก
ก่อนนำมาสู่ฉากการพบกันระหว่าง “ 2 ผู้มากบารมีตัวจริง ” ย่อมเป็นการตอกย้ำถึงเกมเปิดดีลต่อรองภายใต้ดุลอำนาจที่ต่างฝ่ายต่างถือในมือ
ถึงเวลานี้สารพัดวาระร้อนไม่ว่าจะเป็นศึกชิงนายก อบจ.ท่ามกลางสัญญาณการรุกไล่ฝั่งแดง-น้ำเงิน ที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากใส่กันแบบไม่ยั้ง
หรือแม้แต่บรรดานโยบายรัฐบาลที่สะท้อนภาพเกมวัดพลังระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ไล่ตั้งแต่ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศ ต้นตอที่ทำให้ “ทักษิณ” เปิดฉากซัดเดือด “อีแอบ” พรรคร่วมรัฐบาล
เหนือไปกว่านั้นในวันลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อช่วย “สลักจิต ติยะไพรัช” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย หาเสียง ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ทักษิณ” ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง พรรคเพื่อไทย ซึ่งโชว์วิชั่นดันวาระสำคัญอาทิ นโยบายจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศประมาณ 3 ล้านคน คนละ 10,000 บาทในวันที่ 29 ม.ค.68 นี้ หรือการดัน “พนันออนไลน์” ขึ้นมาบนดิน
กระทั่งมีสัญญาณรับลูกมาจาก “เสนาบดีพรรคเพื่อไทย” โดย“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บอกว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องผ่านกระบวนการสภา ทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเก็บภาษีอากร รวมไปถึงการแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน โฟกัสฉบับหลังเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ที่เวลานี้อยู่ในการดูแลของพรรคภูมิใจไทย
เป็นเช่นนี้ต้องจับตา อย่าลืมว่า ประเด็น “พนันออนไลน์” ถูกกฎหมายที่มีการโยนหินออกมาในเวลานี้ เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องผูกโยงไปกับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ “กฎหมายกาสิโน” ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันมาตั้งแต่ในยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ในวันแถลงนโยบายรัฐบาลแพทองธาร เมื่อเดือนก.ย.2567 เวลานั้น สส. ซีกรัฐบาลมีการอภิปรายพูดถึงกฎหมายกาสิโนซึ่งยังไม่ครอบคลุมถึงพนันออนไลน์
อาทิ “สส.ลูกแชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ซึ่งถูกมองว่ามีการส่งบทจากต้นสังกัดมอบหมายให้อภิปรายประเด็นดังกล่าว ท่ามกลางกระแสต่อรองประเด็นพ.ร.บ.กัญชา เรือธงสีน้ำเงิน
"กรวีร์" ย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ที่ “ไม่ขัดข้อง” เรื่องเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่ต้องไม่ผูกขาดแค่นายทุนเพียงไม่กี่เจ้า
ที่สำคัญคือ ขณะนี้เรามีพ.ร.บ.การพนันที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2478 แต่ยังไม่มีการพนันออนไลน์อยู่ในกฎหมายจึงเป็นสิ่งแรกที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาแก้ไข โดยเอาอาวุธให้ฝ่ายปกครองคือ "กระทรวงมหาดไทย" เป็นผู้ดำเนินการ
จนถึงนาทีนี้มองเผินๆ เหมือน “พรรคเพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” จะมีการเปิดฉากเคลียร์กันเป็นระยะ แต่ลึกๆ แล้วยังซ่อนไว้ภายใต้เงื่อนไขต่อรองยื่นหมูยื่นแมวอีกมาก โดยเฉพาะประเด็นความทับซ้อนกันระหว่าง “กลุ่มทุน” 2 พรรคร่วมรัฐบาล
ไม่ต่างจากเกมสภา ไล่ตั้งแต่กฎหมายประชามติที่เจอเกมหักดิบ จนถึงเวลานี้อยู่ในขั้นตอนการพักร่างไว้ 180 วัน แถมสะท้อนภาพเกมวัดพลังเป็นระยะ
หรือเรือธงแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องจับตาหลัง วันที่14-15 ม.ค.68 ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรวม 17 ฉบับ ซึ่งเป็นร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และ 1 ร่างของพรรคเพื่อไทยที่เตรียมเสนอเข้าสู่สภาฯ
ที่ส่อแวววัดพลังอีกรอบโดยเฉพาะด่าน สว.ที่ถูกรวบอำนาจเบ็ดเสร็จโดย “พรรคสีน้ำเงิน” โอกาสเกิดเกม “หักเหลี่ยม” รอบใหม่ย่อมมีหากแต่ละดุลอำนาจเคลียร์กันไม่จบ
ยังไม่นับรวมประเด็นมหากาพย์ของ “2นายใหญ่ ” นั่นคือ ปมร้อนพิพาทเขากระโดง โยง “นายใหญ่สีน้ำเงิน” ที่จนถึงเวลานี้ยังเป็นละครฉากใหญ่ที่ยังไร้ฉากจบ แถมมีการจับตาไปถึงเกมยื่นหมูยื่นแมว จากฝั่งน้ำเงินส่งผ่านไปยัง “นายใหญ่สีแดง” ที่มีกรณี “สนามกอล์ฟอัลไพน์” เช่นเดียวกัน
ต่างๆ เหล่านี้จึงต้องจับตา แม้เบื้องหน้า “มท.หนู” ที่เล่นบทเป็นตัวกลางระหว่าง “2 นาย” จะบอกว่า การพบกันของ 2 ผู้มากบารมีเป็นเพียงการสวัสดีปีใหม่กินบะหมี่ไม่กินมาม่า ไร้วาระการเมือง แต่ด้วยดุลอำนาจที่ต่างฝ่ายต่างถือในมือ
แน่นอนว่า ฉากการเมืองระหว่าง “ทักษิณ-เนวิน” ที่ต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันเป็นอย่างดีย่อมเป็นการสะท้อนถึงบทบาทในฐานะผู้คุมเกมตัวจริง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์