เจอโรคเลื่อน 'วิป3ฝ่าย' เคาะเลื่อนแก้รธน.ม.256 ออกไป1เดือน

ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรรายงานถึงการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป 3 ฝ่าย) เพื่อพิจารณาถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภา วาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรรมนูญ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม และตัวแทนของวิป อาทิ  นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานวิปรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ฐานะวิปวุฒิสภา เข้าร่วมหารือนานกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที

ภายหลังการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ จากเดิมที่กำหนดจะประชุม 14 - 15 ม.ค. นี้ ที่ประชุมเห็นว่ามีประเด็นที่ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบหลายด้าน จึงเลื่อนการกำหนดประชุมออกไป เป็นวันที่ 13 - 14 ก.พ. นอกจากนั้นในที่ประชุมยังพิจารณาด้วยว่า แม้จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเร็วหรืออย่างไรก็ตามต้องรอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่อยู่ระหว่างการยับยั้ง 180 วัน ดังนั้นการเลื่อนพิจารณา 1 เดือนจึงไม่ช้าเกินไป

เมื่อถามว่า หวังว่าจะได้เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ในรัฐสภาชุดนี้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถจะพูดได้ว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เพราะขั้นตอนขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมรัฐสภา ทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือรับหลักการและครั้งที่ 2 คือร่างที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะไปร่างอีกครั้ง รวมถึงประชาชนจะต้องออกเสียงประชามติอีก 2 ครั้ง ดังนั้นจึงเป็นความหวังว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หน้าตาเป็นอย่างไรยังพูดไม่ได้

ด้านนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องเลื่อนเวลาออกไป 1 เดือน เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ​ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ทางสว.ยืนยันว่าต้องมีการนำไปพิจารณา แต่การที่จะไปกำหนดระยะเวลาสั้นๆ นั้นทำไม่ได้ เพราะหลายคนก็มีภารกิจหลายอย่าง อย่างไรก็ดีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าให้แต่ละพรรคร่วมที่คิดจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ไปเตรียมการ

"ส่วนที่มีการมองว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลแต่รัฐบาลไม่ยื่นร่างแก้ไขเข้ามานั้น รัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรค แต่ที่คุยกันมาหลายพรรคยังไม่พร้อม แต่หากพรรคไหนที่จะเสนอเราก็ยินดี เพราะเป็นการทำงานร่วมกัน" นายวิสุทธิ์ กล่าว

ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การเลื่อนการพิจารณาออกไปแม้จะเห็นไม่ตรงกัน แต่ได้ยอมเพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น

ส่วนนายวุฒิชาติ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศและจากการที่ได้คุยนอกรอบกับพรรคเพื่อไทย บอกว่าจะมีการยื่นร่างประกบเข้ามา ตนจึงบอกว่า สว.ต้องใช้เวลาในการศึกษาและทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการพิจารณา จึงขอความกรุณาจากฝ่ายค้านและรัฐบาล หากจะถามว่าส่วนใหญ่สว.เห็นด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะค่อนข้างสุ่มเสี่ยงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา  จึงขอระยะเวลาในการศึกษา 

เมื่อถามว่า หากไม่มีความชัดเจนก็จะไม่โหวตให้ใช่หรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของสว.เพราะมีทั้งบางกลุ่มที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน.