'ที่ดินเขาใหญ่' ในการเมือง บทพิสูจน์มาตรฐาน ส.ป.ก.สอบ

ท่ามกลางกระแส “ความขัดแย้ง” ระหว่าง “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ทุกกลไกทางการเมืองจะถูกงัดมาใช้เป็นเครื่องมือถล่มเข้าใส่กัน
ท่ามกลางกระแส “ความขัดแย้ง” ระหว่าง “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ทุกกลไกทางการเมืองจะถูกงัดมาใช้เป็นเครื่องมือถล่มเข้าใส่กัน เกมตรวจสอบที่ดิน “นายกฯอิ๊งค์-รองนายกฯหนู” จึงเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ส.ป.ก. ในมือของ “ผู้กองมนัส-ทีมกล้าธรรม” จะมีมาตรฐานเดียวกันหรือไม่
เงื่อนปมความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง “ค่ายน้ำเงิน” และ “ค่ายแดง” กำลังคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างเปิดแผลหาช่องโจมตี หวังชิงธงนำสร้างความได้เปรียบให้ฝั่งตัวเอง
ปฏิบัติการฉากหลังปรากฎร่องรอยของ “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า ปักหลักสู้กับ “ครูใหญ่” บ้านสีน้ำเงิน โดยมี “เด็กในสังกัด-นอกสังกัด” เปิดหน้ารบทำสงครามตัวแทนสู้เพื่อนาย
โดยเฉพาะฉากรบเรื่อง “ที่ดิน” บริเวณ “เขาใหญ่” อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งต่างฝ่ายต่าง “มีชนัก” ด้วยกันทั้งคู่ เริ่มจากจู่ ๆ ก็มีการเข้าไปตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.บริเวณเขาใหญ่กว่า 4 หมื่นไร่ นำโดย “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ สายตรง “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ยี่ห้อ “ผู้กองมนัส” แม้จะอยู่คนพรรคกับ “นายใหญ่” แต่ใจฝากไว้กับบ้านจันทร์ส่องหล้า ศึกออกรบแทนนายเจ้าตัวหวังต่อยอดกลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
“ทีมกล้าธรรม” โฟกัสไปที่ “แรนโช ชาญวีร์” สนามกอล์ฟและรีสอร์ทหรูของ “น้องสาว” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
อย่างไรก็ดี “อนุทิน” ให้สัมภาษณ์ยืนยันหลายครั้งถึงความบริสุทธิ์ โดยระบุว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของ “น้องสาว” และได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยครั้งล่าสุดที่ให้สัมภาษณ์ถึงกับบอกว่า ที่ดินข้อพิพาทดังกล่าวมีพื้นที่กว้าง ไม่ใช่เฉพาะที่ปากช่อง แต่รวมถึงเขาใหญ่ ไปโดนอะไรบ้างต้องดูให้หมด ต้องระวังมีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง ถ้าโดนต้องโดนหมดแล้วจะกล้าไหม ส่วนจะมีใครบ้างต้องไปหาเอาเอง
เมื่อ “บิ๊กค่ายน้ำเงิน” ถูกรุกไล่ มีหรือจะอยู่เฉย โดยเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา กมธ.การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร มี “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน กมธ. และมี สส.ค่ายน้ำเงิน เป็นทั้งรองประธาน กมธ. และ กมธ.จำนวนหนึ่ง เชิญ “ธนดล” มาชี้แจงกรณีการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.บริเวณเขาใหญ่ทันควัน
กมธ.การปกครองฯ “สีน้ำเงิน” ไล่บี้ถามถึงกรณี “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ทำสัญญาจัดการหุ้นกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการแจ้งถือครองหุ้นในโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ด้วย ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ เบื้องต้น “ธนดล” ยืนยันว่า โรงแรมดังกล่าวอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองฯ โดยโรงแรมแห่งนี้อยู่ก่อนถึงทางเข้าเขาใหญ่ประมาณ 5 นาที ถ้าให้ตรวจสอบ ก็พร้อมที่จะตรวจสอบ หากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการอนุญาต แต่มีอำนาจตรวจสอบเฉพาะที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ได้มีอำนาจตรวจสอบนิคมฯ
สำหรับข้อมูลรีสอร์ตหรู “แรนโช ชาญวีร์” สนามกอล์ฟและรีสอร์ทหรู เนื้อที่กว่า 600 ไร่ ที่ถูกเข้าไปตรวจสอบ ดำเนินงานภายใต้ บริษัท กอล์ฟเขาใหญ่ จำกัด โดยจดทะเบียนเมื่อ 1 พ.ย. 2560 ทุนปัจจุบัน 222,160,700 บาท มีที่ตั้ง 3 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่ (ข้อมูลเมื่อ 13 ก.พ. 2568) อยู่ที่ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์คันทรีคลับ 333/4 หมู่ 12 ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30450 ประกอบธุรกิจ การดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการแข่งขันกีฬา ปรากฏชื่อกรรมการ 2 ราย ได้แก่ นางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ และนางสาวปราณี พิริยะมาสกุล
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 นางสาว ปราณี พิริยะมาสกุล ถือหุ้นใหญ่สุด 78,3319% นาง อนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ ถือ 21.6681% และนายไชยาพร อิ่มเจริญกุล ถือ 1 หุ้น
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 463,598,932 บาท ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 436,099,874 บาท หนี้สินรวม 284,905,113 บาท รายได้รวม 150,215,633 บาท รายจ่ายรวม 167,116,221 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,029,333 บาท ขาดทุนสุทธิ 17,929,920 บาท
โดยบริษัทแห่งนี้เคยเป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ อย่างน้อย 13 โครงการ ระหว่างปีงบประมาณ 2563-2566 ส่วนใหญ่เป็นการจ้างเช่าห้องประชุม หรือเช่าสนามกอล์ฟเป็นหลัก รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 280,000 บาทเศษ
สำหรับกรรมการทั้ง 2 คน อนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ มีสถานะเป็น “น้องสาว” แท้ ๆ ของ “เสี่ยหนู” ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ “อนุทิน” แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เธอเคยมีประวัติบริจาคเงินในนามส่วนตัวให้พรรคภูมิใจไทย 6 ล้านบาท เมื่อ ม.ค. 2557 ปัจจุบันเป็นกรรมการบริษัทรวมอย่างน้อย 12 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ในจำนวนนี้เป็นเครือของ “ซิโน-ไทย” ของตระกูล “ชาญวีรกูล” หลายแห่ง
ส่วน ปราณี พิริยะมาสกุล ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินของ “อนุทิน” ว่าเคยกู้ยืมเงิน “เสี่ยหนู” ตามบัญชีทรัพย์สินที่แจ้งกรณีรับตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เมื่อ 15 ธ.ค. 2561 ยอดหนี้คงเหลือ 8.5 ล้านบาท นอกจากนี้เธอยังปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 8 แห่ง ในจำนวนนี้มีบางแห่งอยู่ในเครือ “ซิโน-ไทย”
ขณะที่ข้อมูล โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ มีเนื้อที่ราว 11 ไร่ ดำเนินงานในชื่อ บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด โดยบริษัทแห่งนี้ถูก “นายกฯอิ๊งค์” แจ้งต่อ ป.ป.ช. ตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี 2543 กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี 2543 ที่หากนายกฯ หรือรัฐมนตรี ต้องการถือครองหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5% จะต้องโอนให้นิติบุคคลจัดการแทน และแจ้งต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ
โดยในสัญญาจัดการหุ้นให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด เป็นผู้จัดการหุ้น ทำสัญญาเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2567 จำนวน 12 บริษัท รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท ในจำนวนนั้นปรากฏรายการที่ 11 บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด 19,999,999 หุ้น มูลค่า 199,999,990 บาท รวมอยู่ด้วย
โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ มิใช่เพิ่งปรากฎข่าวในช่วงเวลานี้ แต่ก่อนหน้านี้เคยถูกกระแสสังคมกดดันให้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าไปตรวจสอบมาแล้วเมื่อปี 2558 เนื่องจากช่วงนั้นมีกระแสข่าวว่า “แพทองธาร” กำลังอยู่ระหว่างเตรียมลุยธุรกิจรีสอร์ตบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กับ “อาณาจักรโบนันซ่า” อย่างไรก็ดีกระแสดังกล่าวก็เงียบหายไปจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ บริษัท เทมส์ วัลลี่ย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 18 ต.ค. 2556 ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 999 หมู่ที่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วัตถุประสงค์ การทำโรงแรม ปรากฏชื่อกรรมการ 2 คนคือ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (บุตรคนกลางทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่สาว น.ส.แพทองธาร) และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ (นักธุรกิจและบอร์ดบริหาร รวมถึงถือหุ้นในบริษัทตระกูลชินวัตรหลายแห่ง)
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 19 พ.ย. 2567 น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ถือ 20 ล้านหุ้น มูลค่า 200 ล้านบาท คิดเป็น 50% บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (ผู้ดำเนินการจัดการหุ้นให้ “นายกฯอิ๊งค์”) ถือ 19.9 ล้านหุ้นเศษ มูลค่ากว่า 199.9 ล้านบาท คิดเป็น 50% และอุดมศักดิ์ โง้วศิริ ถือ 1 หุ้น มูลค่า 10 บาท
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 424,377,386 บาท เป็นที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 234,975,534 บาท มีหนี้สินรวม 20,730,792 บาท มีรายได้รวม 111,976,539 บาท รายจ่ายรวม 124,934,801 บาท ขาดทุนสุทธิ 12,958,262 บาท
โรงแรมแห่งนี้เคยมีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกับหน่วยงานรัฐ 2 รายการ คือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ทำสัญญาเมื่อ 26 มิ.ย. 2567 จ้างขออนุมัติค่าบริการห้องประชุมสัมมนาและอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ โครงการสัมมนาผู้บริหารกลุ่มอำนวยการระดับต้น ปีงบประมาณ 2567 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง มูลค่า 99,000 บาท และทำสัญญาเมื่อ 29 ส.ค. 2567 จ้างเหมาบริการห้องประชุม โดยวิธีเฉพาะเจาะจง มูลค่า 70,000 บาท
ทั้งหมดคือข้อมูลในเชิงธุรกิจของ “แรนโช ชาญวีร์-เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่” 2 สนามกอล์ฟ-โรงแรมดังของ “อนุทิน-แพทองธาร” ที่สปอร์ตไลท์ทางการเมืองกำลังสาดส่องในตอนนี้ ต้องจับตาดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้ “บรรทัดฐาน” เดียวกันในการเข้าไปตรวจสอบหรือไม่?
ท่ามกลางกระแส “ความขัดแย้ง” ระหว่าง “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ทุกกลไกทางการเมืองจะถูกงัดมาใช้เป็นเครื่องมือถล่มเข้าใส่กัน เกมตรวจสอบที่ดิน “นายกฯอิ๊งค์-รองนายกฯหนู” จึงเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ส.ป.ก. ในมือของ “ผู้กองมนัส-ทีมกล้าธรรม” จะมีมาตรฐานเดียวกันหรือไม่