เลขาฯป.ป.ช.ไม่หวั่นการเมืองกดดันสอบ ทวี-ดีเอสไอ รับคดีฮั้วสว.

เลขาฯป.ป.ช.ไม่หวั่นการเมืองกดดันสอบ ทวี-ดีเอสไอ รับคดีฮั้วสว.

เลขาฯป.ป.ช.​ ระบุตั้งอนุไต่สวน ทวี-อธิบดีดีเอสไอ ปมรับคดีฮั้วสว. ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่ที่ความยุ่งยากซับซ้อน บอกไม่กดดันรับหลายเรื่องเผือกร้อนการเมือง

นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา​ (สว.) ยื่นให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีรับคดีฮั้ว​สว.​ ฐานฟอกเงิน เป็นคดีพิเศษว่า​ ทุกคดีมีขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อมีการกล่าวหามาก็ต้องมีการตรวจรับ 

ทั้งนี้หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจ ของป.ป.ช. เช่นเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เราก็จะรับดำเนินการ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ เป็นขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน เราก็รายงานคณะกรรมการป.ป.ช. ให้ทราบ​ ว่ามีสว.​มายื่นร้องเรียน 

โดยจากนั้นจะเป็นเรื่องของสำนักงานในการตรวจสอบต่อไป แต่เรื่องนี้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าการรับทราบคือการ ตั้งคณะไต่สวน​ โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการ และการดำเนินการจะเหมือนคดีทั่วไป
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะตั้งคณะกรรมการไต่สวน นายสาโรจน์ กล่าวว่า ชั้นตรวจสอบเรามีมาตรฐานกำหนด ว่าควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรืออย่างช้าสุดไม่ควรเกิน 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียด ว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนหรือไม่ รวมถึงข้อมูลในทุกแง่มุมที่จะมาประกอบการไต่สวนว่ามีมูลหรือไม่

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ ที่หลายคดีเผือกร้อนทางการเมือง อยู่ในมือป.ป.ช. ขณะนี้ นายสาโรจน์​ กล่าวว่า​ สำนักงาน​ป.ป.ช. มีหน้าที่ ในการตรวจสอบไต่สวน เรื่องที่อยู่ในอำนาจของกรรมการป.ป.ช. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง 
 

"ดังนั้นประชาชนและสื่อมวลชน จะโฟกัสมาที่ป.ป.ช. ว่าจะพิจารณาอย่างไร และจะเร็วหรือไม่​ ป.ป.ช. เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เรื่องที่กล่าวหามามักจะมี 2 มุมมาโดยตลอด​ ส่วนตัวคิดว่า​บรรยากาศก็ไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมา เพียงแต่ช่วงนี้มีคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาถี่ จนโดนสังคมเร่งรัดและตั้งคำถาม"

นายสาโรจน์ กล่าวต่อว่า ยืนยันไม่ได้ถูกกดดัน เป็นภาวะปกติของการทำหน้าที่ และที่สำคัญคือเราต้องตั้งหลักในการทำหน้าที่ ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องอธิบายต่อสังคมได้ แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นมา คือความรวดเร็ว เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการ