'ชัยชนะ' ซัดฝ่ายค้าน ฉี่ไม่ข้ามขา รัฐบาลมี ทักษิณ ตัวเองก็มี ธนาธร

24 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช​ สส. นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์​ ยืนยันว่า เสียงของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ต้องรอการประชุมของพรรคในวันที่ 26 มี.ค.ก่อน ว่าจะมีมติโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร และเราก็มีมารยาทในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว​ แต่วันนี้ได้มีการประชุมคร่าวๆ ที่ประชุมขอให้รับฟังข้อมูลการอภิปราย

ส่วนท่าทีของผู้อาวุโส 3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นอย่างไร นายชัยชนะ กล่าวว่า ขอให้ไปถามเจ้าตัวเอง ซึ่งเราให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ นายชัยชนะ กล่าวว่า จากการฟังการอภิปรายของนายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ขอเวลา 28 ชั่วโมง  สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง แต่การอภิปรายเป็นเรื่องเดิมๆ

เราต้องก้าวข้ามเรื่องบางอย่างไปให้พ้น ต้องวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง หากไปพูดถึงบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้อยู่ในสภาฯ ก็ไม่ได้ต่างกับพรรคประชาชนที่มีผู้นำจิตวิญญาณอยู่เหมือนกัน

เพราะฉะนั้นการอภิปรายนายกรัฐมนตรี ต้องเจาะประเด็นว่า มีจุดอ่อนเรื่องอะไร ผิดพลาดเรื่องอะไร หรือทุจริตเรื่องอะไร เพื่อให้ประชาชนรับทราบ ไม่ใช่หยิบยกบุคคลอื่นมา เพราะประชาชนจะเสียประโยชน์​

การพูดสร้างภาพกับการกระทำ เป็นคนละเรื่องกัน ขอให้ฝ่ายค้านเอาเรื่องจริงมาพูดดีกว่า สิ่งที่ตนกังวลวันนี้คือ คำถามของฝ่ายค้านอยู่ในมือรัฐบาลแล้วหรือไม่ และรัฐบาลจะมีคำตอบที่ดีกว่าฝ่ายค้านหรือไม่ ทำให้ฝ่ายค้านหมดความน่าเชื่อถือ

"ฉี่ไม่ข้ามขาตัวเอง​ ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง ​ฝ่ายรัฐบาลมีทักษิณ​ ฝ่ายค้านก็มีธนาธร​" นายชัยชนะ​ กล่าว

นายชัยชนะ ยัง​กล่าวถึง การอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าได้มีการหยิบยกเรื่อง Entertainment Complex มาอภิปราย แต่สุดท้ายเรื่องการเมืองไทยอยากให้ข้อคิดไว้อย่างว่า เรื่องนี้ไม่ได้หยิบยกมาในรัฐบาลนี้ แต่หยิบยกมาหลายรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะผ่านหรือไม่ ดังนั้น วันนี้การแก้ปัญหาของรัฐบาล ก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ถูกทิ้งมายาวนาน ไม่ได้รับการแก้ไข ให้ได้รับการแก้ไข

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีข้อสรุป เรื่องนี้รอเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา จึงจะมาประชุมกันอีกครั้ง