ศาลปกครองสั่งลงโทษภาคทัณฑ์'ดิเรกฤทธิ์'
ศาลปกครองสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ "ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม" เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ทำจดหมายน้อยถึงผบ.ตร.โยกย้ายตร.
นายวิชัย ชื่นชมพูนุท รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทน นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้พิจารณารายงานการสืบสวนข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการ สืบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายเกษม คมสัตย์ธรรม รองประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานคณะกรรมการ ฯ , นายไพบูลย์ เสียงก้อง และ นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด , นางปานตา ศิริวัฒน์ อธิบดีศาลปกครองกลาง และนายอดุล จันทรศักดิ์ รองอธิบดีศาลปกครองพิษณุโลก เป็นกรรมการ ฯ กรณีที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) และ รอง ผบ.ตร. เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งสรุปว่า การกระทำของนายดิเรกฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามจริยธรรมข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง โดยมีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง และการกระทำดังกล่าวยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ได้รับมอบหมายหรือรู้เห็นเป็นใจจากนายหัสวุฒิ ประธานศาลปกครองสูงสุด
โดยนายวิชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลปกครองสูงสุด พิจารณาผลการสอบสวนดังกล่าวแล้ว เห็นพ้องว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง จึงเห็นควรลงโทษให้ภาคทัณฑ์ แต่เนื่องจากนายดิเรกฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ถูกพักงาน นานแล้วเป็นเวลา 2 เดือน และไม่ปรากฏความเสียหายในรูปธรรมที่สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงให้งดโทษภาคทัณฑ์ แต่ยังให้ว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์โดยให้นายดิเรกฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง พึงระมัดระวังในการรักษาชื่อเสียงภาพลักษณ์ และเกียรติภูมิของสำนักงานศาลปกครอง และศาลปกครอง รวมทั้งรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน ไม่ให้เสื่อมเสียง ตลอดจนไม่อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง หรือผู้อื่น โดยให้ปฏิบัติอยู่ในกรอบของจริยธรรม ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และวินัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ
ทั้งนี้สำนักงานศาลปกครอง ได้นำเรื่องดังกล่าว เสนอต่อคณะอนุกรรมการสามัญประจำสำนักงานศาลปกครอง ( อ.ขป.สามัญ) ที่เป็นองค์กรบริหารงานบุคคลของข้าราชการฝ่ายศาลปกครองแล้วในวันนี้ โดย อ.ขป.สามัญ พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาความผิดและโทษดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามระเบียบของทางราชการที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการเผผยแพร่เอกสารบันทึกข้อความไม่เป็นทางการ ที่ปรากฏชื่อเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ส่งถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ขณะนั้น เพื่อขอให้สนับสนุน รอง ผกก.ป. สน.หัวหมาก ท่านหนึ่ง ขึ้นไปเป็นผู้กำกับการ (ผกก.) โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพื่อนสนิทกับหลายชายของนายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด และได้ช่วยดูแลการปฏิบัติภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดในหลายโอกาส จนทำให้ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี 2556 กระทั่งประธานศาลปกครองสูงสุด ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาดังกล่าว