ปชป.ลงพื้นที่ 'พิมาย' รับฟังปัญหาที่ดินทับซ้อนกรมศิลป์
“ภูมิสรรค์” ควง “ราเมศ” ลงพื้นที่ “พิมาย” รับฟังปัญหา ชาวบ้าน หลัง “กรมศิลป์”จัดทำแนวเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมาย
นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการขับคลื่อนยุทธศาสตร์และกิจกรรมพิเศษภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน ให้ลงพื้นที่พร้อมนายราเมศวร์ รัตนเชวง รองโฆษกพรรคและคณะทำงานฝ่ายกฏหมายพรรค เพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนชาว อ.พิมาย จ. นครราชสีมา สืบเนื่องจาก กรมศิลปากร ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 16 ก.ย. 2559 ถึงเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินในเขตที่ดินโบราณสถาน เมืองพิมาย 1,665 ราย แจ้งให้ทราบว่ากรมฯ ได้จัดทำแนวเขตที่ดินโบราณสถานเมืองพิมายแล้ว ครอบคลุมพื้นที่ 2,658 ไร่ (ครอบคลุมหมดทั้งเทศบาล) และหากเจ้าของที่ดินไม่เห็นด้วย ก็สามารถยื่นคัดค้านได้ภายใน 30 วัน หลังจากได้รับแจ้งจากกรมฯ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนได้รับหนังสือที่อธิบดีเป็นผู้ลงนามประมาณ 200-300 ราย
นายภูมิสรรค์ กล่าวว่า วันนี้ (13 พ.ย.) ตนและนายราเมศได้ลงพื้นที่พบผู้บริหารเทศบาลฯและพี่น้องประชาชนต.พิมาย ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้คำปรึกษาด้านกฏหมาย และยื่นคัดค้านให้ทันตามกรอบเวลา รวมทั้งเข้าดูพื้นที่บริเวณโดยรอบปราสาทหินพิมายและจะร่วมช่วยกันหาทางออกและบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
นายภูมิสรรค์ กล่าวว่าอยากฝากข้อสงสัยของชาวบ้านถึงอธิบดีกรมศิลปากรว่า 1.เหตุใดกรมศิลป์จึงรีบเร่งที่จะขึ้นทะเบียนทับที่ชาวบ้านที่อาศัยมาตั้งเเต่เกิดและสืบมาหลายรุ่น 2.มีคนพยายามจะสร้างกระเเสข่าวว่าชาวบ้านเป็นผู้บุกรุก ซึ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความเเคลงใจว่ามีกลุ่มผลประโยชน์ใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทางกรมศิลป์คงต้องเข้าไปตรวจสอบ เพราะชาวบ้านอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน 3.รัฐควรใช้ช่องทางของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าพิมายเป็นช่องทางในการปรับปรุงดูแลมากกว่าขับไล่ชาวบ้านโดยใช้เพียงนิติศาสตร์ที่ชาวบ้านเห็นว่าไม่เป็นธรรม สุดท้ายเชื่อว่าเมื่อถึงขบวนการยุติธรรมเเล้ว ศาลจะเป็นที่พึ่งหวังของชาวบ้านและคนเล็กๆได้เสมอ อย่างไรก็ตาม ตนเเละนายราเมศวร์จะรีบกลับไปรายงานผู้ใหญ่ของพรรค เพื่อวางเเนวทางช่วยเหลือต่อไป