มทภ. 3 ยันวิสามัญ 'ชัยภูมิ ป่าแส' ไม่เกินกว่าเหตุ

มทภ. 3 ยันวิสามัญ 'ชัยภูมิ ป่าแส' ไม่เกินกว่าเหตุ

มทภ. 3 ยันวิสามัญ “ชัยภูมิ ป่าแส” นักกิจกรรมชาวลาหู่ ไม่เกินกว่าเหตุ เพราะหากเป็นตนเองอาจจะยิงมากกว่านี้ แต่ก็พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 แถลงกรณีการวิสามัญฆาตกรรม นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ เหตุเกิดที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ว่า กองทัพภาคที่ 3 ก็รู้สึกเสียใจ ต่อการเสียชีวิตของเขา แต่ในข้อเท็จจริง ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงว่า ตัวนายชัยภูมิ เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด ตำรวจการตามจับตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 มีหลักฐานชัดเจนการโอนเงิน การใช้จ่ายเงิน ตามหลักพื้นฐาน เด็กคนหนึ่งไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะมีเงินที่ไหนมาใช้จ่ายมากมาย

แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวด้านสังคม ด้านเชื้อชาติเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาพลาดพลั้งเข้าไปในวงจรยาเสพติดได้อย่างไร อาจมีความจำเป็นทางการเงิน ทำให้หลงผิด ซึ่งการเข้าตรวจสอบก็เป็นไปตามปกติ เด็กอีกคนที่ไม่หนีเพราะไม่รู้ว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ แต่เด็กที่วิ่งหนีถึงต่อสู้ เพราะรู้ว่าซ่อนยาเสพติดไว้ ซึ่งสามารถซ่อนได้ไม่กี่แห่ง ในล้อยางรถยนต์ และซอกลำโพงด้านข้าง ส่วนระเบิดที่ใช้ก็หาง่ายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ทางหน่วยจึงให้ระมัดระวังในการทำงาน หัวหน้าหน่วยฝึกลูกน้องดีมาก ที่พลทหารตัดสินใจยิงเพียงนัดเดียว ถ้าเป็นตน ณ เวลานั้นอาจกดออร์โต้ก็ได้ และยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

อย่างไรก็ตาม ก็เข้าไปดูแลเยียวยาครอบครัวเขาเท่าที่ทำได้ในฐานะคนไทยด้วยกัน ส่วนคดีความก็ว่าไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่มีการให้ร้ายซึ่งกันและกัน ตนได้เน้นย้ำทำคดีแบบเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กองทัพภาคที่ 3 วางตัวเป็นกลาง ตำรวจที่ทำคดี สอบให้ได้ข้อมูลที่เป็นกลาง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย