สั่งเชือด 'จนท.ปปง.' ให้ออกราชการ ผิดจริงเรียก2ล้าน ปัดไม่ใช่ 'ผอ.'
"บิ๊กปปง." สั่งฟันวินัยร้ายแรง "ขรก." ในสังกัดเรียกรับสินบน ให้ออกจากราชการ เผยไม่ใช่ระดับ "ผู้อำนวยการ" เป็นเป็นแค่ระดับปฎิบัติการเพียงคนเดียวเท่านั้น
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. (สะพานหัวช้าง) พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาการแทนเลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้าราชการสำนักงาน ปปง. ที่มีพฤติกรรมเรียกรับสินบนจากนักธุรกิจรถเช่าในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวสื่อสาธารณะ ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีมูลความผิดจริง ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวต่อว่า กรณีเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้มีการอ้างว่าสำนักงาน ปปง. จะได้รับส่วนแบ่ง 20% จากการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดนั้น ขอเรียนชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากโดยกระบวนการปกติแล้ว เมื่อมีการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะต้องส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 หรือคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหายในคดีนั้นๆ
จึงขอยืนยันว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดี ไม่ได้มีส่วนแบ่งจากการดำเนินการแต่อย่างใด และสำหรับกรณีที่ข้าราชการรายดังกล่าวมีหมายจับ สำนักงาน ปปง. ได้มีการพิจารณาดำเนินการไว้ก่อนแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่ไม่สามารถเป็นข้าราชการได้นั้นตามหลักเกณฑ์จะต้องคำพิพากษาถึงที่สุดและมีโทษจำคุก เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ตามกระบวนการของกฎหมายหากยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จะต้องให้ความเป็นธรรม กับผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วย
ทั้งนี้ข้าราชการรายดังกล่าวเพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือน พ.ค.2560 นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติทุกคนที่เข้ามาทำงานที่ปปง.พบว่ามีประวัติคดีเพียงคนเดียว ก็จะต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตามขั้นตอน ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงของข้าราชการดังกล่าวอ้างว่าตนเป็นผู้อำนวยการส่วนนั้น ไม่เป็นความจริงเป็นเพียงการแอบอ้าง ซึ่งข้าราชการดังกล่าวมีตำแหน่งเพียง ข้าราชการระดับปฏิบัติการเท่านั้น
พล.ต.ต.ปรีชา ยังกล่าวย้ำว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีข้าราชการหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานปปง. จะดำเนินการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดทุกรายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป