นายกฯ เตือน 'ชาวนา' อย่าให้ใครใช้ประโยชน์จากความใสซื่อ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานในการรับมอบสมุดปกขาวนโยบายเศรษฐกิจฐานรากสู่แนวทางการปฏิบัติ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลให้ที่ดินส.ป.ก.ไป บางคนไม่ได้ทำเกษตรจริง ขณะเดียวกัน มุ่งหวังที่จะขายที่ดินส.ป.ก.ที่ให้ไป ยิ่งไปกันใหญ่ พื้นที่ทำการเกษตรเหล่านี้ก็จะหายไป จริงอยู่ที่ที่ดินส.ป.ก.บางพื้นที่ไม่เหมาะทำการเกษตร มันก็ต้องทำอย่างอื่นได้ รัฐบาลพยามหาวิธีปลดล็อกให้ที่เหล่านี้ทำอย่างอื่นได้ ท่านก็ไม่ยอมอีก มุ่งแต่จะทำการเกษตร ทั้งที่แล้งซ้ำซาก ดังนั้น รัฐบาลต้องหาวิธีการปลดล็อกกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายเขียนมานานแล้วว่า ส.ป.ก.มีเป้าหมายอย่างไร วันหน้าที่ดินลดลงเรื่อยๆ ถ้าทุกคนปล่อยไปหมด โดยจำนองหรือจำนำได้ จะส่งผลให้ที่ดินทำการเกษตรลดลง เกษตรกรจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อแบ่งให้ลูกหลานหมดตัวเองก็ไม่มีที่ทำกิน ส่วนลูกก็ไม่ทำการเกษตร แล้วรัฐบาลจะหาพื้นที่ไหนมาให้อีก 

นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่เช่าที่นา รู้หรือไม่เขากำหนดค่าเช่าไร่ละเท่าไหร่ ไปยอมให้เขาเก็บในราคาเกินที่กำหนดได้อย่างไร กฎหมายมีทุกตัว ขึ้นอยู่กับพื้นที่ หากเสียเกินราคาที่กฎหมายกำหนดขอให้ไปแจ้งความ กล้าหรือไม่ ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้เลยว่าคนนี้ปล่อยค่าเช่าราคาเกินกฎหมายกำหนด ตนจะลงโทษให้ แต่ท่านก็กลัวเขาไม่ใช้เช่าอีก แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ถ้าทุกคนต้องการแล้วมากดดันรัฐบาล ทุกรัฐบาลก็ให้ไป ปัญหาก็ทับถมมาแบบนี้ วันหน้าค่าเช่านาก็จะเพิ่มขึ้นอีก 3-4 พันบาท เราต้องเอาให้ได้ ดูสิว่าจะแก้ไขให้เราได้หรือไม่ ท่านไม่ต้องกลัว ตอนนี้ถ้าเช่าอยู่ ไปขอให้เขาลดราคาลง หากเขาไม่ให้ท่านเช่าต่อมาบอกตนได้ แจ้งขึ้นมาเลยว่าถูกรังแก เพราะถ้าไม่ทำวันนี้วันหน้าไม่มีทางอีกแล้ว ปัญหาจะกลับมาที่เก่า 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลนี้แก้อย่างเป็นรูปธรรม หลังได้รับการร้องเรียน โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม สามารถเอาโฉนดกลับคือประชาชนได้นับแสนไร่ นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครพูด แต่ตนจะพูด การแก้ปัญหาทุกอย่างมีคณะกรรมการ 

นายกฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาทุจริต ทั้งหมดต้องกล้าแสดงออก กล้าแจ้งความ ไม่ต้องกลัว เราจะไปกลัวคนไม่ดีทำไม แต่คนดีๆ กลับไม่กลัว และท่านก็ไมาต้องมากลัวตนทั้งสิ้นเพราะทำให้พวกท่านคนจน ขณะเดียวกัน ตนก็ต้องดูแลทั้งหมด วันนี้ตนเป็นนายกฯ ต้องรู้ทุกเรื่อง  รู้ในหลักการเพื่อแก้ปัญหา และผู้ปฏิบัติก็ต้องดูจะแก้ปัญหาอย่างไร ต้องแบกความรู้คนอื่นไปด้วย ไม่ใช่รู้แต่ของตัวเอง ตนไม่ชอบการทำงานแบบนี้ การแก้ปัญหาทุกอย่างเหมือนเครื่องจักรขับเคลื่อนประเทศมีฟันเฟืองถึงกัน ถ้ายังแยกกันคิดแยกกันทำ คงไม่ใช่ อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์จากความบริสุทธ์ใสซื่อของท่านไปเป็นประโยชน์ทางการเมืองโดยเด็ดขาด ขอเตือนไว้ ถ้าไม่คิด แบบที่ตนคิดหรือทำวันนี้ ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ยืนยัน100เปอร์เซ็นต์ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า 

"วันนี้การทำความเข้าใจของผมเสียงอาจจะดังไปหน่อย แต่วันนี้ตั้งใจจะพูดเสียงเบาๆ ตั้งใจทำเสียงหล่อแบบบางคนเสียหน่อยแต่ทำไม่ได้ เพราะงานมันท่วมท้นในสมองทุกวัน ฟังแล้วไม่สบายใจเครียดไปหมด" นายกฯ กล่าว