กระสุนตก 'กกต.' สะเทือน 'เลือกตั้งไทย'

ที่มี “อิทธิพร บุญประคอง” เป็นประธาน กำลังถูกสังคม ตราหน้าว่า “ไม่มืออาชีพ”

ทั้งภาพที่ปรากฏของกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร, ล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง และ เลือกตั้งจริง เมื่อ​ 24 มีนาคม ที่พบปัญหาและความวุ่นวาย ซึ่ง “กกต.” ไม่สามารถเคลียร์ได้อย่างชัดเจน รวมถึงการรายงานคะแนนที่สังคม โดยเฉพาะกลุ่มติดตามทางโซเชียลมีเดีย ที่จับได้ว่า “มีพิรุธ - ส่อความไม่โปร่งใส”

ทำให้ “กกต.” ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรจาก “ตำบลกระสุนตก” และภาพนั้นกลาย สิ่งที่สะท้อนไปสู่ “ผลการเลือกตั้งไทยปี62” ว่าอาจไม่ได้รับความเชื่อถือและยอมรับ

และอาจเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองไทย เริ่มมีรอยปะทุและเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้ง ไม่สงบอย่างที่ใครคาดหวัง

ทั้งจากประเด็น “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องให้ กกต. ปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ต่อการรายงานผลนับคะแนนที่หลายเขตมีปัญหา พร้อมขู่ด้วยว่าหากไม่เป็นไปตามกฎหมาย เรื่องอาจถูกส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

ทั้งจากประเด็นที่ “ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมือง” ร้องขอให้นับคะแนนใหม่ เพราะพบการทำงานเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่ทำให้การขานคะแนนบัตรเลือกตั้งสับสน รวมถึงประเด็นการแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งในหลายพื้นที่ ซึ่ง “กกต.” ยังไม่มีท่าทีเอาจริงกับการตรวจสอบข้อร้องเรียน

รวมไปถึงประเด็นร้อน ว่าด้วยบัตรเลือกตั้งที่เกินกว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ นั่นเป็นเค้าลางของการนำไปสู่ “ความไม่ราบรื่น” ซึ่งการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ไม่ราบรื่น ที่ว่า จะปรากฏภาพชัดของทางแก้ปัญหาอย่างไร “กกต.” คือ ผู้ชี้คำตอบ และหากคำตอบไม่นำไปสู่ความหายแคลงใจ

ภายใต้อำนาจเต็มของ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)” ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะฯ” อาจเห็นภาพของการใช้มาตรา 44 เป็นยาวิเศษแก้ปัญหา ก็เป็นได้

แม้ว่า “พรรคพลังประชารัฐ” ที่เสนอชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสฟอร์มทีมตั้งรัฐบาลได้ก็ตาม

กับอีกความเคลื่อนไหวหนึ่ง ซึ่งสะเทือนถึงบทบาท “กกต.” คือกลุ่มไอ-ลอว์ ตั้งประเด็นที่เว็บไซต์เชนจ์ดอทโออาร์จี เพื่อให้ชาวเน็ตเข้าชื่อถอดถอน กกต. ออกจากตำแหน่ง เพราะปมปฏิบัติหน้าที่ที่ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจต่อการเลือกตั้งและผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ที่พวกเขาเชื่อว่า จะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม

ดังนั้น ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทั้งหลังจากนี้ ไปจนถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งภายใน 2 เดือน สิ่งที่เป็นภาพสะท้อนของความ​มือใหม่-ไร้ความเป็นมืออาชีพ ย่อมสะเทือนถึงการเลือกตั้งที่ออกมา

และกระเทือนถึงภาพของ “รัฐบาลชุดใหม่” ที่มีเปอร์เซ็นต์สูงว่า “พล.อ.ประยุทธ์” จะคัมแบ็คเป็นผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ถูกสังคมตั้งคำถามและมีความแคลงใจในผลเลือกตั้งมากที่สุด