หลัง9พ.ค. 'พปชร.' ชัดตั้งรัฐบาล ให้เกียรติจุดยืน 'มิ่งขวัญ'

หลัง9พ.ค. 'พปชร.' ชัดตั้งรัฐบาล ให้เกียรติจุดยืน 'มิ่งขวัญ'

"พปชร." มีแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาล ระบุไม่ผิดจากการรายงานของสื่อ ชี้ทุกอย่างชัดหลัง 9 พ.ค.นี้ให้เกียรติจุดยืน"มิ่งขวัญ"


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพของพรรค เปิดเผยว่า ระหว่างนี้ที่พรรคการเมืองต่าง ๆ กำลังรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลนั้น ทีม กทม.ของพรรค ได้เตรียมเดินหน้านโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำได้จริง ไม่เพ้อฝัน และจะทำทันที เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวกรุงเทพและประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

โดยจะเร่งเดินหน้า 3 นโยบายหลัก 1.แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งในสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะไปร่วมพูดคุยกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำระบบ AI มาใช้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามสี่แยก 2.นโยบาย 50 เขต 50 สวนสาธารณะ เพิ่มปอดให้กรุงเทพ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วใน 5 เขตของ กทม. 3.นโยบายพัฒนาตลาดในกรุงเทพ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมกับดูแลผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจากการถูกจัดระเบียบ นอกจากนี้ ยังจะมีการทำถนนคนเดินทั้ง 50 เขตในกรุงเทพด้วย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ส่วนนโยบายใหญ่ของพรรค ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี ล่าสุดนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาและเตรียมความพร้อมในนโยบาย เช่น การลดภาษีบุคคลธรรมดาลงทุกระดับ ร้อยละ 10 ,นโยบายด้านการหารายได้เข้ารัฐ เพื่อตอบโจทย์ประเทศในด้านการพัฒนา ทั้งนี้หลายนโยบายของพรรค พปชร.ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน เรามุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และหากได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ก็จะเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายในทันที

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ประเทศไทยจะได้รัฐบาลผสมจากหลายพรรค ซึ่งทุกพรรคต่างมีนโยบายเป็นของตัวเอง ดังนั้น หากพรรค พปชร.ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะต้องหารือกับพรรคร่วม เพื่อผนวกและปรับนโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ให้เดินหน้าไปด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

พรรคพปชร.มั่นใจจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถึงกระนั้นก็ต้องรอให้กกต.รับรองผลการเลือกตั้งเสียก่อน ทุกอย่างจึงจะมีความชัดเจนเพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่อง เช่น การแจกใบเหลือง ส้ม แดง การนับคะแนนใหม่และเลือกตั้งใหม่ในหลายหน่วย รวมถึงสูตรการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พันธมิตรที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรค พปชร.นั้น มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง ไม่ผิดจากที่สื่อมวลชนได้รายงานไปแล้วเป็นระยะๆ แต่ความชัดเจนทั้งหมด จะเกิดขึ้นภายหลังวันที่ 9 พ.ค.นี้ แน่นอน

ต่อข้อถามที่ว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นหัวหน้า ประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรค พปชร.จะทำให้ พปชร.รวมเสียงลำบากหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า 1.เราไม่ก้าวก่าย แต่ให้เกียรติจุดยืนของพรรคอื่น เพราะทุกพรรคต่างมีอุดมการณ์ทางการเมืองของตัวเอง จึงเป็นสิทธิ์ที่จะแสดงจุดยืนตามความคิดเห็น 2.เรายังไม่ด่วนสรุปว่าขณะนี้พรรคการเมืองใดได้จำนวน ส.ส.เท่าใด เพราะ กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ตัวเลขจึงยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าพรรค พปชร.ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากการทำงานของ กกต.ของหน่วยงานรัฐแน่นอน