"ลูกป๋าเหนาะ" หอบหลักฐานร้องกกต. ขอจัดเลือกตั้งใหม่เขตหลักสี่-จตุจักร ระบุบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปโผล่เขต 1 พร้อมร้องคู่แข่งแจกทรัพย์สินโจ่งแจ้ง 19 ครั้ง
22 เม.ย.62 เวลา 10.30 น. นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 9 หลักสี่ จตุจักร พรรคเพื่อไทย และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการจัดการเลือกตั้ง ในเขต 9 เนื่องจากตรวจสอบพบว่าบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด และนอกราชอาณาจักร ของเขต 9 ไปปรากฏอยู่ที่เขต 1 โดยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เปิดนับแล้วบอกว่าเป็นบัตรเสีย ทั้งนี้คะแนนดังกล่าวอาจมีผลเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังพบข้อพิรุธจากผลการรวมคะแนน ซึ่งจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ประกอบด้วยบัตรดี บัตรเสีย บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกผู้ใด ซึ่งมีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าและนอกราชอาณาจักรรวมอยู่ด้วย มีจำนวนตรงกันพอดีกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มาแสดงตนจำนวน 127,650 คน ทั้งที่ในความเป็นจริงปรากฏหลักฐานว่ามีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า และนอกราชอาณาจักร ของเขต 9 ไปอยู่ที่เขต 1 เป็นจำนวนมาก ดังนั้น พรรคเพื่อไทย จึงเข้ายื่นหลักฐานขอให้ กกต.ตรวจสอบหากพบการผิดพลาดขอให้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 9 ทั้งเขต นอกจากนี้ พรรคจะได้รวมรวมหลักฐานมายื่นให้กกต.จัดเลือกตั้งใหม่อีกหลายเขต เช่น เขต 1-2 ที่ปรากฏหลักฐานบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าถูกส่งไปนับสลับเขต
นายวรวัจน์ กล่าวว่า ตนได้รวบรวมหลักฐานกรณีผุ้สมัครพรรคการเมืองหนึ่งมีการแจกทรัพย์สินและสิ่งของให้กับชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนจะมี พ.ร.ฎ. ให้มีการเลือกตั้งรวม 19 ครั้ง โดยอ้างว่าเป็นการทำบุญให้กับแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ภาพการแจกสิ่งของยังเผยแพร่อยู่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้สมัครรายดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีการลบภาพและข้อความดังกล่าว จึงเข้าข่ายจูงใจโดยสัญญาว่าจะให้หรือให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ม.73 (1)
“หากกกต.สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลคะแนนจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน เพราะไม่มีการเลือกตั้งในยุคใดที่ผู้สมัครแจกของอย่างโจ่งแจ้ง แม้จะแจกโดยอ้างว่าทำความดีทำบุญให้แม่แต่แม่ก็ตายไปนานหลายปีแล้ว ระหว่างที่แจกสิ่งของก็รู้ดีว่าจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. และยังมีการปราศรัยในลักษณะหาเสียงด้วย” นายวรวัจน์กล่าว
ต่อมานายสุรวัชร สังขฤกษ์ ตัวแทนกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ตาม ม.98 วรรค 8 เนื่องจากในวันที่ 8 เม.ย.51 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกฯ ที่ 73/2551 ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ดังนั้นจึงขอให้ กกต. ส่งคำร้องคุณสมบัติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปให้ศาลฎีกาตัดสินว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่
นอกจากนี้ยังขอให้ กกต. ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. เลื่อนการรับรองผลส.ส.ออกไปอีก 180 วัน เนื่องจากหลังการเลือกตั้งยังมีข้อโต้แย้งเรื่องการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และยังมีการร้องให้ยุบพรรคการเมืองอีกหลายพรรค รวมทั้งมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติของส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์และส.ส.เขต จึงควรเลือนประกาศรับรองผลการเลือกตั้งออกไป เพื่อให้ กกต. มีเวลาจัดการเลือกตั้งซ่อมให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม ได้ ส.ส.ที่ไม่มีมลทินเข้าสภาฯ