'ดำรงค์' ไม่โกรธชทพ. แต่โทษคนจัดโผครม.
หัวหน้าฯรักษ์ผืนป่าไม่โกรธ "วราวุธ-ชทพ." แต่โทษคนจัดโผครม. ย้ำไม่ต้องการรมต. แค่อยากเป็นคณะทำงานในกระทรวงฯ
นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา หลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าหลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากพบว่าโควต้ารัฐมนตรีของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเป็นของพรรคชาติไทยพัฒนา ตนพร้อมนัดประชุมพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะมองว่ากรณีดังกล่าวตนเป็นผู้ที่พาพรรคถึงทางตัน โดยแนวทางพิจารณา จะมี 3 ทาง คือ ร่วมรัฐบาลและเตะฝุ่นอยู่ร่วมโหวต, เป็นฝ่ายค้านอิสระ หากรัฐบาลทำดีพร้อมจะช่วย แต่หากไม่ดีพร้อมจะคัดค้าน และการเข้าร่วม 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้กลุ่มพรรคฝ่ายค้านยังไม่ชักชวนให้เข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงทำงานร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ นายดำรงค์ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นทำงานร่วมกันไม่ได้ แต่เพื่อทำตามมารยาท และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยควรมีมารยาทต่อการไม่แทรกแซงการทำงาน อย่างไรก็ตามการคัดเลือกบุคคลของพรรคชาติไทยพัฒนาไปคุมกระทรวงทรัพย์ฯ นั้นไม่ใช่ความผิดของพรรคชาติไทยพัฒนา แต่เป็นความผิดของคนจัดโผครม. ขณะที่ในระหว่างประชุมสภาฯ ตนได้พบกับนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกวางตัวจะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทักทายเหมือน ส.ส.ที่พบปะกันตามปกติ และไม่ได้คุยถึงประเด็นดังกล่าว
“ผมไม่ได้โกรธคุณวราวุธ ไม่ได้โกรธพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะเขาอาจมีนโยบายที่ดีกว่าพรรคผมก็ได้ ส่วนคุณวราวุธ ถือเป็นคนหนุ่ม รุ่นใหม่ ที่มีอนาคตไปถึงนายกรัฐมนตรีได้ เพราะพูดภาษาอังกฤษเก่ง แต่ชั้นนี้ตามที่พรรคพลังประชารัฐเคยบอกว่ากระทรวงนี้จะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ และผมพร้อมจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน ภายใต้คณะทำงานเพียงคณะเดียว ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องอนุรักษ์ป่าไม้, ลดโลกร้อน และแก้ปัญหาเรื่องการบุกรุกอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่จะขอเข้าไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี” นายดำรงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากับข้อเสนอให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ในสภาฯ นายดำรงค์ กล่าวว่า ตนไม่ต้องการ เพราะงานของกรรมาธิการฯคือการตรวจสอบ สอบสวน แต่สิ่งที่ตนต้องการคือ การช่วยรัฐบาลทำงาน แต่หากไม่ได้เป็นไปตามที่พิจารณาไว้ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ที่มี ส.ส.2 คน พร้อมจะพิจารณาตัวเอง ซึ่งตนเชื่อว่าการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลคงไม่มีปัญหาต่อเสถียรภาพและการทำงานในสภาฯ ของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่มีเสียงปริ่มน้ำ.