'หมอระวี' จ่อตั้งกระทู้สด หากผู้เกี่ยวข้องเฉยปมติดตั้งพัดลม 30 ตัว
“หมอระวี” จี้ผู้บริหารไปรษณีย์ รับผิดชอบ ปมติดพัดลม 30 ตัว ชี้แค่ลดเหลือ 12 ตัว ไม่พอ เหตุส่อทุจริตชัด ซื้อแพงกว่าราคากลาง จี้ “รมต.ต้นสังกัด-ปปท.” สอบ จ่อตั้งกระทู้ถามสดในสภา
เมื่อวันที่ 15 ก.ค.62 นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะส.ส. บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกรณีที่ทำการไปรษณีย์คูคต จ.ปทุมธานี ติดพัดลม 30 ตัว ในห้องซึ่งเจ้าหน้าที่เพียง 2 คน โดยพัดลมดังกล่าวราคาจัดซื้อสูงถึงตัวละ 6,000 บาท ขณะที่ราคากลางอยู่ที่ตัวละ 2,000 บาท ซึ่งนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ออกมาชี้แจงว่า คำนวณผิดพลาดและแก้ไขลดจำนวนลงเหลือ 12 ตัวและมีการตั้งกรรมการสอบแล้ว ว่า แค่คำชี้แจงดังกล่าวยังไม่เพียงพอ เพราะมีลักษณะปกป้องการทุจริตครั้งนี้ จึงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเห็นว่ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบหน่วยงานดังกล่าวต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้ง ปปท.ควรเข้ามาดูแลด้วย หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จะนำเรื่องนี้ตั้งกระทู้สดถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นายแพทย์ระวี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงการทุจริตที่ชัดเจน ทั้งเรื่อง วงเงินการจัดซื้อที่แพงเกินกว่าราคากลางถึง 3 เท่าตัว และยังมีปริมาณที่มากกว่าความต้องการที่แท้จริง จะชี้แจงเพียงแค่ว่าคำนวณผิดพลาดไม่ได้ เพราะก่อนที่จะขออนุมัติงบประมาณ จะต้องมีการคำนวณ แล้วว่าห้องขนาด 60 ตารางเมตร ควรจะต้องใช้พัดลมจำนวนเท่าใดจึงจะมีความเหมาะสม ที่น่าสงสัยคือราคาจัดซื้อที่แพงกว่าราคากลางถึง 3 เท่าตัว ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างไร จะต้องมีการตรวจสอบคณะกรรมการทั้งชุด รวมถึงคณะกรรมการตรวจรับงาน ที่ต้องเห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าพื้นที่ 60 ตารางเมตร กับพัดลม 30 ตัวมีปริมาณมากเกินไป โดยเรื่องนี้ไม่ควรปล่อยให้ไปรษณีย์ไทยตรวจสอบกันเอง รวมถึงการก่อสร้างตู้ไปรษณีย์ขนาดยักษ์ที่หน้าสำนักงานใหญ่ ที่มีความสูงกว่า 14 เมตร มูลค่าการก่อสร้างกว่า 7 ล้านบาท ว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่และราคาแพงเกินจริงหรือเปล่า
นายแพทย์ระวี กล่าวอีกว่า ขอบคุณสหภาพแรงงานไปรษณีย์ไทยที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ต่อสาธารณะจนนำไปสู่การตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐในทุกหน่วยงาน ช่วยกันตรวจสอบหากพบ ความผิดปกติ เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ ควรแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการดำเนินการตรวจสอบ และ ฟ้องประชาชน เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเรื่องอยู่ในกระแสความสนใจของสังคมก็จะได้รับการแก้ไขที่รวดเร็วขึ้น