'ธีระเกียรติ' ประกาศจบเส้นทางการเมือง ยื่นลาออกวุฒิฯแล้ว

"นพ.ธีระเกียรติ" ยื่นลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. แล้ว ขอจบเส้นทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้สิ้นสุดสภาพรัฐมนตรี

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าเช้าวันนี้ว่า ได้เข้าพบประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นใบลาออกจากตำแหน่งวุฒิสภา ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว จากกรณีที่ภรรยามีการถือหุ้นบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่าแม้การตัดสินของศาลเมื่อวานจะเป็นเพียงการสิ้นสุดเฉพาะตัวรัฐมนตรีก็ตาม และขอขอบคุณอดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมาชี้แจงว่าเรื่องของคำวินิจฉัยของศาลไม่เกี่ยวกับตำแหน่งของ ส.ว. แต่ได้พิจารณาดูแล้ว เราต้องเคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแม้จะบอกว่าหุ้นมีไม่มาก 1 หุ้นก็มีไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ เพราะหากปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน การสิ้นสุดสภาพจะต้องมี ส.ว. 1 ใน 10 ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ก็กกต. ส่วนผลจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ แต่ขอแสดงเจตจำนงตอนนี้เลยว่าขอลาออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลในวันศุกร์ ที่ 30 สิงหาคนนี้

ทั้งนี้ นพ.ธีระเกียรติ บอกว่าจากการพูดคุยกับประธานวุฒิสภา ก็เคารพการตัดสินใจของตน และจะดำเนินการแจ้งต่อสมาชิกวุฒิสภาต่อไป รวมถึงได้มีการชื่นชมว่าเป็นการแสดงสปีริตที่ดี เนื่องจากเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องของข้อกฎหมายจะต้องไปตีความกันอีกครั้ง ดังนั้นเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ และย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นความชัดเจนเกี่ยวกับการถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือคู่สมรสที่จะต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องเงินประจำตำแหน่งนั้นไม่จำเป็นต้องคืน เนื่องจากเป็นการลาออก ไม่ได้ทำอะไรผิด

นอกจากนี้ นพ.ธีระเกียรติ ไม่แสดงความเห็นว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะขัดต่อการเป็น ส.ว. หรือไม่ เนื่องจากประเทศต้องอยู่ด้วยกฎหมาย จะคิดส่วนตัวไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าภรรยาตนไม่รู้ และไม่สามารถใช้เรื่องของความไม่รู้มาอ้างไม่ได้ ดังนั้นตนต้องการให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ส่วนใครจะคิดว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานหรือไม่นั้นแล้วแต่จะคิด แต่ส่วนตัวตนคิดว่าเพียงพอแล้วที่จะตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม นพ.ธีระเกียรติ บอกว่าส่วนตัวน่าจะจบเรื่องการเมืองเอาไว้เพียงแค่ตรงนี้ เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานมาเยอะแล้ว

ทั้งนี้ การลาออกครั้งนี้ ส่งผลให้นายอภิชาต โตดิลกเวชช์ ซึ่งอยู่ในรายชื่อ ส.ว. สำรองลำดับที่ 2 ขึ้นมาเป็น ส.ว. แทน ส่วนนายดอน ปรมัตถ์วินัย ซึ่งมีรายชื่อสำรองลำดับที่ 1 นั้น ขาดคุณสมบัติ ส.ว. เนื่องจากอยู่ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ