จี้กกต.ฟันธงคะแนน 4.5 หมื่นของพรรคปชช. อยู่หรือหาย
"สมชัย" จี้กกต.ฟันธงคะแนน 4.5หมื่นของพรรคประชาชนปฏิรูป จะอยู่หรือหาย หวั่นเกิดปัญหาการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พึงมี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฐานะนายทะเบียน มีมติหรือมีคำวินิตฉัยที่ชัดเจนต่อกรณีของคะแนนพรรคประชาชนปฏิรูป จำนวน 4.5 หมื่นคะแนนที่ได้รับการรับรองจาก กกต. หลังจากที่กกต. มีมติให้ยกเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป ตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อกรณีการนำคะแนนจากผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูปไปรวมหรือไม่กับพรรคการเมืองใดๆ ที่นายไพบูลย์ เตรียมย้ายเข้าสังกัดใหม่
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าคะแนนที่ประชาชนลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูปที่ส่งผลให้นายไพบูลย์ ได้เป็นส.ส. นั้น ต้องถูกยกเลิกและ กกต. ต้องคำนวณคะแนนของผู้เลือกตั้งใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากรณีที่จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อเกินจำนวนที่พึงมีตามกฎหมายกำหนด และหาก กกต. ไม่มีการวินิจฉัยที่ชัดเจนต่อกรณีที่เกิดขึ้นนั้น อาจทำให้สถานะความเป็น ส.ส.ของนายไพบูลย์ คงอยู่ตลอดไป แม้ว่ารัฐธรรมนูญ และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะกำหนดว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่ ภายใน 1 ปี นับจากวันเลือกตั้งทั่วไป ต้องนำคะแนนที่ได้คำนวณเพื่อหาส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ แต่หากไม่แสดงความชัดเจนต่อคะแนน จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ และหากพรรคการเมืองอื่นๆ ใช้กลไกเหมือนที่นายไพบูลย์ใช้ อาจทำให้พบการย้ายพรรคการเมืองเพื่อให้สถานะความเป็น ส.ส.คงอยู่ตลอดไป แม้หลังการเลือกตั้งจะมีผลการเปลี่ยนแปลงเรื่องคะแนนเลือกตั้ง
นายสมชัย กล่าวด้วยว่าปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวตนมองว่าเป็นประเด็นที่อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานนั้นสร้างปัญหาทางกฎหมายและเรื่องการเมือง ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องทบทวนเนื้อหาที่ตนมองว่าส่งผลต่อการแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซี่งรวมถึงปัญหาปากท้องของประชาชน และ อดีตกรธ. ไม่ควรปากแข็งว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นั้นดีที่สุด เพราะจากการบังคับใช้ที่ผ่านมาพบว่าทำให้เกิดปัญหา ที่สร้างการผูกขาดให้กับกลุ่มผู้ใช้อำนาจบางกลุ่มเท่านั้น