'ภัคพงศ์' ถก236บิ๊กตร.นครบาล สั่งดูแลเส้นทางเสด็จฯ ลดกระทบปชช.มากที่สุด
"ผบช.น." คนใหม่ มอบนโยบาย "236บิ๊กตำรวจ" สังกัดนครบาล คุมพื้นที่ 88 สน. เน้นพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การถวายความปลอดภัยฯในเส้นทางเสด็จฯ ลดกระทบปชช.มากที่สุด
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ต.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.น. ระดับตั้งแต่ รอง ผบช.น. , ผบก.น.1-9 , ผบก.จร. , ผบก.สส.บช.น. , ผบก.สปพ. , ผบก.อคฝ. , ผบก.อก.บช.น. และผกก.ทั้ง 88 สน. รวมทั้งสิ้น 236 นาย เข้าร่วมประชุม
ในการประชุมวันนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ได้กล่าวมอบนโยบาย โดยมีนโยบายสำคัญที่มุ่งเน้น คือ พิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติเพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การถวายความปลอดภัยฯในเส้นทางเสด็จ ทำความเข้าใจกับประชาชนที่ใช้เส้นทางผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ส่วนนโยบายทั่วไป ด้านความมั่นคง ให้บังคับใช้กฎหมาย 100% เพื่อความสงบสุขของสังคม ต้องมีข้อมูลแหล่งที่พัก เช่น ร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ที่อาจนำมาประกอบวัตถุระเบิด เป็นต้น
ด้านงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ยึดหลักบังคับใช้กฎหมาย เน้นการป้องกัน เข้าหาประชาชน การใช้กำลังให้เหมาะสม และภาพพจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การรับแจ้งเหตุและการระงับเหตุโดยเร็ว พร้อมเน้นการจับกุมคดีอาชญากรรมที่รัฐเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากผลการจับกุมของ บช.น. รอบ 11 เดือนที่ผ่านมาติดลบ ส่วนด้านการอำนวยความยุติธรรม เช่น พนักงานสอบสวนต้องกล้าบังคับใช้กฎหมายและหาช่องทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย คดีที่รัฐบาลหรือสังคมให้ความสนใจ และคดีค้ามนุษย์ หัวหน้าหน่วยต้องกำกับดูแล ให้ความสำคัญกับการสอบสวน รอบคอบ ในการรวบรวมพยานหลักฐาน
ด้านงานสืบสวน ต้องเป็นมืออาชีพ ให้ความสำคัญกับทุกคดี การสืบสวนผู้ต้องหา แสวงหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วน สนับสนุนฝ่ายสอบสวน ติดตามหมายจับค้างเก่า ด้านงานจราจร “การจราจรคล่องตัว ลดอุบัติเหตุ” ให้ บก.จร. เป็นเจ้าภาพหลักแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวม เน้นภารกิจอำนวยความสะดวกการจราจร ไม่เน้นยอดการจับกุม มีการจัดการจราจร จุดวิกฤต เช่น กรณีน้ำท่วม ไฟไหม้ รถชน การตั้งจุดกวดขันจับกุมยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ (PM 2.5) การตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ของบก.จร. การกวดขันวินัยจราจร และห้ามเรียกรับผลประโยชน์ หรือกลั่นแกล้งจับกุมโดยเด็ดขาด
ด้านการปราบปรามยาเสพติด ให้ใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบภายใต้กฎหมาย ตำรวจต้องไม่เข้าไปพัวพันยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและคดีอาญาอย่างเด็ดขาด โดยหัวหน้าสถานี หรือผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด ต้องสอดส่องดูแลอย่างจริงจัง
สำหรับนโยบายเฉพาะที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเน้นย้ำ ประกอบด้วย 1.การปราบปรามข่าวปลอมบิดเบือน/แพร่ระบาด/ชี้นำ (Fake News) มอบหมายให้ บก.สส.บช.น. เป็นเจ้าภาพหลัก 2.การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ฝุ่นละออง PM 2.5 มอบหมายให้ บก.น.1-9 เป็นเจ้าภาพหลัก โดยให้บก.จร.และ บก.อคฝ. เป็นหน่วยสนับสนุน 3.การปราบปรามค้ามนุษย์ เงินกู้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน 4.ปราบปรามอาชญากรรมโดยใช้สื่อออนไลน์ เช่น การค้าอาวุธปืน หรือยาเสพติดทางออนไลน์ 5.ปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่จะต้องหมดไปเป็นศูนย์ 6.ปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบัน 7.สถานบริการในพื้นที่ จะต้องไม่มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่มีอาวุธปืนและยาเสพติด
ทั้งนี้ ทาง ผบช.น. ได้ให้หลักคิดการทำงานว่า รับผิดชอบงานในหน้าที่ ให้ดีที่สุด พึงระลึกเสมอว่าทุกข์เล็กๆของประชาชน หากไม่ได้รับการแก้ไข ทุกข์นั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วปัญหานั้นจะย้อนกลับมาหาเราเอง
ภาพจาก - fb/thaimetropolice