ดีเอสไอยัน มติ ครม. เลื่อน ตน. มือปราบ "กรวัชร์" สูงขึ้น

ดีเอสไอยัน มติ ครม. เลื่อน ตน. มือปราบ "กรวัชร์" สูงขึ้น

ย้ำ “คดีบิลลี่” โปร่งใส - ไม่มีการแทรกแซง

พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกรมในกรณีของพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ตามมติ ครม.เมื่อวานนี้ว่า เป็นการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นเทียบเท่าอธิบดี ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของข้าราชการ

โดยพันตำรวจโท กรวัชร์ ได้สมัครใจเข้ารับการคัดเลือกตามประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เรื่อง รับสมัครคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือก เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง กระทรวงยุติธรม ลงวันที่ 20 กันยายน 2562 

จึงมิได้เป็นการโยกย้ายให้พ้นหน้าที่การเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีการหายตัวไปของนายพอละจีแต่อย่างใด 

พันตำรวจเอก ไพสิฐกล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการทำงานในคดีของนายพอละจีหรือ "บิลลี่" ในรูปแบบคณะกรรมการ โดยปราศจากแทรกแซง ซึ่งประกอบด้วย พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีพันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งเดิมที่มีอยู่แล้ว และยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 

ทั้งนี้ จะมีรองอธิบดีท่านอื่น ซึ่งกำกับดูแลการทำงานของกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคมาทำหน้าที่แทน พันตำรวจโ กรวัชร์ ตามสายบังคับบัญชา

 “ขอให้สาธารณชนอย่าได้เข้าใจคลาดเคลื่อน และขอให้มั่นใจการทำงานแบบสหวิชาชีพของกรม คดีหายตัวไปของนายพอละจี เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญ โดยตัวผมเองจะเข้าไปกำกับดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิดด้วย" พันตำรวจเอก ไพสิฐกล่าว 

พันตำรวจเอก ไพสิฐยังไม่ยืนยันกระแสข่าวการเชิญพันตำรวจโทกรวัชร์ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในคดี โดยกล่าวแต่เพียงว่า ทางกรมฯ อาจเชิญพันตำรวจโทกรวัชร์ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษนี้ เนื่องจากพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ . 2547 ได้เปิดกว้างในการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษใด มีเหตุจำเป็นต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษ อธิบดีกรมสอบสวนอาจแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษได้ 

เมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม 4 ราย รวมทั้ง พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโทกรวัชร์ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวีสั้นๆว่า มติครม.จะมีผลเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ 

โดยในวันนี้ พันตำรวจโทกรวัชร์ ยังคงติดตามความคิบหน้าของคดี โดยได้เข้าพบ พล...สันติ์ สุขวัจน์ รอง ผบช.สพฐ.ตร.(3) ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ตำรวจภูธร ภาค7 เพื่อติดตามผลการพิสูจน์วัตถุของกลาง (ถังน้ำมัน)ในคดีการฆาตกรรมนายบิลลี่ ซึ่ง พันตำรวจโทกรวัชร์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งผลการตรวจสอบวัตถุของกลาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก โดยตนรับทราบว่าทางศูนย์ฯทำงานเหน็ดเหนื่อยกับหลักฐานชิ้นนี้ และตนมีความพอใจกับผลที่ได้รับแจ้ง แม้จะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

“บิลลี่พอละจี รักจงเจริญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง และผู้นำชุมชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ได้หายตัวไปหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัว ในความผิดเกี่ยวกับการนำน้ำผึ้งป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยผิดกฎหมาย ในวันที่ 17 เมษายน 2557 และอ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้ว ก่อนที่ดีเอสไอจะแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า เขาได้เสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสารพันธุกรรมเทียบเคียงกับของมารดาจากชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะที่พบในเขื่อนแก่งกระจาน ในเขตอุทยานฯ