นายกฯ เผยพิจารณาอีกครั้งปม 'สหภาพแรงงานต่างด้าว' ปม 'จีเอสพี'
นายกฯ เผยเร่งเจรจา ขอคืนสิทธิ "จีเอสพี" สหรัฐฯ พร้อมหาตลาดใหม่ทั่วโลก ทดแทนของเดิมย้ำ ต้องปรับกลยุทธ์ พัฒนาคุณภาพสินค้า วอน ปชช. อย่าวิตก ระบุพิจาณาอีกครั้ง ปมสหภาพแรงงานต่างด้าว
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 เวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมครม.ถึงกรณีสหรัฐอเมริกามีคำสั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) กับสินค้าจากไทย ว่า เรื่องนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ชี้แจงแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ เรื่องนี้มีการทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว มีการเจรจากันทุกปี
แต่ครั้งนี้เมื่อเขาประกาศออกมา เราก็จำเป็นต้องไปดูสิ่งที่เป็นปัญหามันอยู่ตรงไหน เพื่อหาทางเจรจาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม เราเคยเจรจาขอคืนสิทธิในเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว โดยปีก่อนได้คืนมา 7 รายการ
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ได้มีผลเฉพาะกับประเทศไทย ประเทศในอาเซียนก็โดนไปด้วย อันนี้เป็นสิทธิของเขาโดยคณะทำงานของเขา แต่ถ้าเรามองวิกฤติเป็นโอกาส ก็ต้องพยายามเจรจาในระยะสั้น ขอคืนสิทธิให้ได้โดยเร็ว จะมีการยกขึ้นเจรจาภายใต้กรอบการตกลงทางการค้าการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ต่อไป และในระยะยาวสิ่งที่เราต้องทำคือหาตลาดใหม่ทดแทนตลาดเดิม ได้แก่ รัสเซีย ยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา เป็นต้น ส่วนการใช้ประโยชน์จากประเทศไทยในการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี FTA13 กรอบความตกลงอาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู ฮ่องกง และการขยายการลงทุนไปยังประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพีสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีมากกว่าไทย ถือเป็นการขยายตลาด ขยายการลงทุน
นายกฯ กล่าวอีกว่า ยังต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า ยกระดับความสามารถด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรองรับสถานการณ์การค้าในตลาดโลกที่แข่งขันเสรีได้ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
“ขอให้พวกเราอย่าวิตกกังวลเรื่องนี้ให้มากนัก อันนี้จำเป็นต้องหารือกับภาคเอกชนของเราด้วยว่ามีมาตรการช่วยเหลืออะไรกันอย่างไร เป็นธรรมดาเมื่อมีการให้ ก็มีสิทธิจะเรียกคืนของเขา เราต้องไปดูในเรื่องแรงงานอีกด้วย เหตุผลก็คือในเรื่องของแรงงาน มีกฎหมายหรือบางมาตรการที่เราปฏิบัติไม่ได้เพราะว่าเป็นเรื่องภายในของเรา ซึ่งต้องระมัดระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิประโยชน์เรื่องของสหภาพของแรงงานต่างด้าว หลายประเทศก็ไม่ได้ทำเหมือนกับเรา เดี๋ยวไปดูอีกที ก็อย่าเอาไปยึดโยงกับเรื่องนู้นเรื่องนี้เลย มันไม่เกิดประโยชน์ วันนี้ก็ขอให้ลดผลกระทบในเรื่องเหล่านี้ ฝากไปถึงประชาชน สังคม ให้ลดในเรื่องนี้ลงไป มันจะไม่มีผลดีต่อการพูดคุยในอนาคต” นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยืนยันอีกว่า กรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการแบน 3 สารพิษในประเทศไทย เมื่อถามว่า ไม่เกี่ยวได้อย่างไรในเมื่อสินค้าของสหรัฐฯ มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท ไม่สามารถส่งมาไทยได้เนื่องจากติดเงื่อนไขของ WTO พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็เดี๋ยวมีการเจรจา"